

นักเทรดรายวันมีข้อได้เปรียบบางประการเหนือกว่านักเทรดทั่วไป พวกเขาสามารถทำกำไรได้รวดเร็วขึ้น เพลิดเพลินกับประโยชน์จากตลาดที่มีความผันผวนสูง และไม่มีความเสี่ยงในช่วงข้ามคืน แน่นอนว่าการเทรดรายวันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อคุณชำนาญแล้ว คุณจะสามารถคว้าโอกาสในตลาดต่างๆ และใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาที่เล็กน้อยเพื่อสร้างผลกำไรทางการเงินได้ การระบุหุ้นที่มีศักยภาพสูงสามารถเพิ่มโอกาสความสำเร็จของนักเทรดได้อย่างมาก นี่คือวิธีการเลือกหุ้นที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดรายวัน
แม้ว่าจะไม่มีความสำเร็จที่รับประกันได้กับหุ้น แต่ก็มีลักษณะเฉพาะบางอย่างที่เทรดเดอร์สามารถสังเกตเพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ:

เนื่องจากลักษณะของการเทรดรายวัน ปริมาณการซื้อขายรายวันมักจะน้อยมาก ดังนั้นการเลือกหุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายสูงจึงมีความสำคัญอย่างมาก ความต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขายจะสูงขึ้น ซึ่งอาจลดทอนกำไรที่เป็นไปได้ หุ้นที่มีปริมาณต่ำก็อาจมีความผันผวนสูงกว่าโดยรวม หุ้นที่มีปริมาณสูงหมายถึงมีเทรดเดอร์จำนวนมากที่เทรดในหุ้นเหล่านั้น ซึ่งนำไปสู่สภาพคล่องที่สูงขึ้นและสเปรดที่ต่ำลง
มีวิธีต่างๆ ในการค้นหาหุ้นที่กำลังเป็นแนวโน้ม และนี่คือที่ที่ตัวชี้วัดทางเทคนิคสำหรับการเทรดรายวันมีประโยชน์:
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ตัวชี้วัดนี้ช่วยปรับระดับการเคลื่อนไหวของราคา โดยกรองเสียงรบกวนจากความผันผวนของราคาที่เกิดขึ้นแบบสุ่ม
ตัวชี้วัดค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบแตกต่างและรวมกัน (MACD) ช่วยระบุแรงซื้อและแรงขายรวมถึงความแตกต่างของราคา เมื่อฮิสโตแกรมอยู่เหนือเส้นศูนย์ถือว่าเป็นสัญญาณขาขึ้น (bullish) และเมื่ออยู่ต่ำกว่าเส้นศูนย์ถือว่าเป็นสัญญาณขาลง (bearish)’
Awesome oscillator ช่วยให้เทรดเดอร์ศึกษาทิศทางตลาดได้อย่างชัดเจน ค่าบวกบ่งชี้แนวโน้มขาขึ้น ในขณะที่ค่าลบบ่งชี้แนวโน้มขาลง

กรอบเวลาการเทรดให้ข้อมูลที่มีคุณค่าสำหรับเทรดเดอร์รายวัน เช่น แท่งเทียน (candlesticks) เป็นกราฟยอดนิยมที่แสดงราคาสูงสุด เปิด ปิด และราคาต่ำสุดของสินทรัพย์ กรอบเวลาจะแสดงข้อมูลในช่วงเวลาที่กำหนด กรอบเวลาที่ใช้กันทั่วไปได้แก่ กราฟ 1 นาที (M1), 5 นาที (M5), 15 นาที (M15) และอื่นๆ
กรอบเวลาช่วยให้เทรดเดอร์ระบุแนวโน้ม ปรับกลยุทธ์ บริหารความเสี่ยง และค้นหาโอกาสในการเทรด
เนื่องจากหุ้นมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย การติดตามรายการและข่าวสารล่าสุดจึงเป็นสิ่งสำคัญ นี่คือรายชื่อหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวสูงที่คุณอาจสนใจเทรด:

หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการเริ่มต้นเทรดคือการเปิดบัญชี ทดลองเทรด (demo account) ซึ่งไม่เพียงแต่จำลองการเทรดจริงเท่านั้น แต่ยังไม่มีความเสี่ยงใดๆ คุณสามารถเปลี่ยนไปใช้บัญชีจริงเมื่อคุณกำหนดเป้าหมายและความสามารถในการรับความเสี่ยงได้แล้ว’





