บทความ

Mindset การเทรด: 4 กฎเหล็กเพื่ออยู่รอดในตลาดให้ได้นานที่สุด

TMGM x Daddy Investor | อยู่รอดก่อนรวย: Mindset ที่คนเทรดต้องมี ก่อนคิดจะชนะตลาด Mindset การเทรดเป็นหัวใจสำคัญที่จะกำหนดว่าคุณจะอยู่รอดในตลาดการเงินได้นานแค่ไหน หลายคนคิดว่าความสำเร็จในการเทรดมาจากอินดิเคเตอร์ที่ดีที่สุดหรือสูตรลับ แต่ความจริงแล้ว Mindset การเทรดที่ถูกต้องสำคัญกว่าเทคนิคใดๆ ทั้งหมด โค้ชกอล์ฟจาก Daddy Investor แชร์ประสบการณ์จริงว่า จุดเปลี่ยนสำคัญของเขาคือวันที่ยอมรับว่า "เราเดาตลาดไม่ได้" และเริ่มสร้างระบบเทรดที่เหมาะกับตัวเอง พร้อมฝึกวินัยในการเทรดอย่างเคร่งครัด ผลลัพธ์คือการพลิกจาก "เจ๊งยับ" สู่การเทรดอย่างยั่งยืน ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้ Mindset การเทรดมืออาชีพ อันตรายของ Leverage 3 ระบบเทรดมืออาชีพ (Trend Following, Grid Trading, DCA Strategy) และ 4 กฎเหล็กที่จะช่วยให้คุณอยู่รอดในตลาดได้นานที่สุด เพราะการอยู่รอดก่อนรวยคือรากฐานของความสำเร็จในระยะยาว

ทำไม Mindset การเทรดสำคัญกว่าเทคนิคการเทรด?

ตลาดการเงินเต็มไปด้วยความผันผวน ความไม่แน่นอน และอารมณ์ของผู้เล่นนับล้านๆ คน การจะ “มีชีวิตรอด” อยู่ในเกมนี้ได้นานพอจนเห็นกำไร คุณต้องมี Mindset ที่ถูกต้องก่อน ซึ่งในบทความนี้จะพาเทรดเดอร์ทุกท่านไปถอดบทเรียนจากโค้ชกอล์ฟ Daddy Investor 


1. เจ๊งจริง เจ็บจริง Ego พัง

2. ทางรอด

3. ระบบเทรดที่ใช้จริง  Trend Follow / Grid + Close System / DCA

4. แก่นที่ใช้จริงกฎ 4 ข้อที่ทำให้ “อยู่รอดในตลาด” ไม่ใช่แค่รอด แต่ยังค่อย ๆ เติบโตได้ด้วย


Mindset ของ “อยู่รอดก่อนรวย” คือการยอมรับว่าเป้าหมายแรกของเทรดเดอร์ไม่ใช่การทำกำไรก้อนโต แต่คือ การรักษาเงินต้นให้อยู่กับเราให้นานที่สุด เพราะถ้าเงินหมดตั้งแต่ปีแรก คุณจะไม่มีโอกาสได้เก็บเกี่ยวจากตลาดในระยะยาว


อันตรายของ Over Leverage ที่ทำลายพอร์ตของเทรดเดอร์


เปรียบให้เห็นภาพง่ายๆ ผ่านการทำธุรกิจ: อยากสร้างอพาร์ตเมนต์ 30 ล้าน แต่มีเงินสดแค่ 8 ล้าน → ต้องกู้ 22 ล้าน


นี่คือตัวอย่างของ Leverage


ถ้าธุรกิจประสบความสำเร็จ → โตไว

ถ้าล้ม → พังยับเร็วกว่าเดิมหลายเท่า


การเทรดก็เหมือนกัน Leverage คือดาบสองคม ช่วยให้โตเร็ว แต่ก็ทำให้พอร์ตพังเร็วแบบไม่ทันตั้งตัว คนส่วนใหญ่พัง เพราะไม่รู้ว่าตัวเองรับความเสี่ยงได้แค่ไหน และใช้ Leverage สูงเกินกว่าประสบการณ์หรือความเข้าใจของตัวเอง


บทเรียนสำคัญคือ “ถ้ายังไม่รู้จักความเสี่ยงของตัวเอง → อย่าเพิ่งแตะ Leverage ”


ทำไมคนส่วนใหญ่พังเพราะใช้ Leverage ผิดวิธี  


การเทรดก็เหมือนกัน Leverage คือดาบสองคม ช่วยให้พอร์ตการเทรดโตเร็ว แต่ก็ทำให้พอร์ตพังเร็วแบบไม่ทันตั้งตัว


สาเหตุหลักที่คนส่วนใหญ่พัง:


- ไม่รู้ว่าตัวเองรับความเสี่ยงได้แค่ไหน

- ใช้ Leverage สูงเกินกว่าประสบการณ์

- ขาดความเข้าใจในการบริหารความเสี่ยง

- ไม่มีระบบ Money Management ที่ชัดเจน


3 ระบบเทรดมืออาชีพ  


โค้ชกอล์ฟแบ่งปัน 3 ระบบเทรดที่ใช้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งแต่ละระบบมีจุดประสงค์ ความเสี่ยง และผลตอบแทนที่ต่างกัน เหมาะกับสไตล์นักเทรดที่ไม่เหมือนกัน


Trend Following ตามเทรนด์ใหญ่สร้างกำไร


เป็นกลยุทธ์การเทรดที่ "ตามกระแสตลาด" ไม่พยายามเดาจุดกลับตัว แต่รอให้เทรนด์เกิดขึ้นชัดเจนแล้วค่อยเข้า เมื่อเทรนด์ขึ้น → ซื้อ, เทรนด์ลง → ขาย


- จุดเด่น: เวลาตลาดมีเทรนด์ชัด จะได้กำไรก้อนใหญ่

- จุดอ่อน: ช่วงตลาด Sideway (ไม่มีทิศทาง) จะแพ้บ่อย


เปรียบเทียบ: เหมือนธุรกิจ Startup - ลงทุน 500 บริษัท แต่กำไรหลักมาจาก 2-3 บริษัทที่เด่น


Grid Trading + Close System: ระบบที่สร้าง Cash Flow และลดความเสี่ยง


Grid คืออะไร?


เป็นการ "แบ่งโซนราคา" เป็นช่วงๆ เหมือนตาข่าย แล้ววางคำสั่งซื้อ-ขายไว้ที่แต่ละโซน


ราคาลง → ซื้อ

ราคาขึ้น → ขาย


ได้กำไรเป็นรอบๆ เหมือนเก็บค่าเช่ารายเดือน


ส่วน Close System เป็นระบบที่ "ไม่ใช้ Leverage" หรือใช้ Leverage น้อยมาก วางเงินเต็มจำนวนเหมือนซื้อสินทรัพย์จริงๆ


วิธีทำงาน:


ซื้อ SET50 Future 1 สัญญา = 170,000 บาท → วางเงินครบ 170,000 บาท พอร์ตจะแตกต่อเมื่อราคาลงเหลือ 0 จุด 


จุดเด่น: ความเสี่ยงต่ำมาก 

จุดอ่อน: ต้องใช้เงินทุนมาก กำไรเติบโตช้ากว่า


DCA Strategy - สะสมสินทรัพย์ระยะยาว


DCA ย่อมาจาก Dollar Cost Averaging = "ซื้อไปเรื่อยๆ สม่ำเสมอ" ไม่สนราคาขึ้นลง


วิธีทำงาน:


กำหนดเงินก้อนคงที่ (เช่น 5,000 บาท) ซื้อทุกเดือน หรือทุกสัปดาห์

ตลาดขึ้น → ซื้อของแพง แต่พอร์ตโต

ตลาดลง → ซื้อของถูก ลดต้นทุนเฉลี่ย


จุดเด่น: เหมาะกับการลงทุนระยะยาว 10-15 ปี ไม่ต้องจับจังหวะตลาด


เปรียบเทียบระบบเทรดกับการทำธุรกิจ   


ทั้งหมดนี้คือการย้ำว่า ระบบเทรดคือธุรกิจส่วนตัวของคุณ ซึ่งต้องวางแผน ทำซ้ำ มีวินัย และจัดการความเสี่ยง ไม่ใช่การพนันที่หวังกำไรครั้งเดียวแล้วรีไทร์


เปรียบเทียบ 3 ระบบเทรดกับธุรกิจ



4 กฎ Mindset การเทรด เพื่ออยู่รอดในตลาดให้ได้นานที่สุด


1. ใช้เงินที่เสียได้เท่านั้น


เงินที่ทำให้ชีวิตพังถ้าเสีย → ไม่ใช่เงินสำหรับเทรด


2. วินัยสำคัญกว่าระบบ 


ระบบดีแค่ไหนก็แพ้ใจที่อ่อนแอทุกครั้ง


3. เพิ่มเงินตามสกิลและสภาวะใจ


“ให้พอร์ตโตไปพร้อมใจ”

ถ้าพอร์ตใหญ่เกินใจ → ความเครียดจะทำให้คุณเทรดพลาดซ้ำแล้วซ้ำอีก


4. อยู่รอดนานคือชัยชนะ


ตลาดตอบแทนคนที่อยู่ได้นาน ไม่ใช่คนที่รีบ


ข้อคิดสุดท้าย


“ใจต้องใหญ่กว่าพอร์ต ไม่งั้นคุณจะนอนไม่หลับ”


ความสำเร็จของการเทรดไม่ได้เกิดจากอินดิเคเตอร์ใหม่ๆ หรือสูตรลับที่ใครสักคนจะเปิดเผย แต่เกิดจาก Mindset ที่ถูกต้อง การมีระบบที่เหมาะกับตัวเอง และความสม่ำเสมอในการทำตามแผน


ทุกการขาดทุนคือบทเรียน ทุกความผิดพลาดคือส่วนหนึ่งของเส้นทาง และทุกก้าวเล็กๆ จะพาคุณไปสู่การเป็นเทรดเดอร์ที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว


อยากรู้ว่าโค้ชกอล์ฟเปลี่ยนจาก "เจ๊งยับ" เป็น "เทรดอย่างยั่งยืน" ได้ยังไง?


ดูวิดีโอเต็มได้ที่:

 



รับฟังคอร์สเรียนอื่นๆ ได้ที่: TMGM Academy Webinars




เทรดอย่างชาญฉลาดวันนี้

เงินทดลอง $10,000
มากกว่า 100 ตลาด
ค่าธรรมเนียมต่ำ สเปรดแคบ
Trading App
TMGM
Trade The World
TMGM เป็นผู้ให้บริการทางการเงินระดับโลกที่ดำเนินงานภายใต้มาตรฐานการกำกับดูแลที่เข้มงวด มุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์การซื้อขายที่ราบรื่น ผ่านแพลตฟอร์มเว็บและมือถือที่ใช้งานง่ายของ TMGM นักเทรดสามารถเข้าถึงตลาดระหว่างประเทศและมีส่วนร่วมกับเครื่องมือที่หลากหลาย รวมถึงฟอเร็กซ์ ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ โลหะมีค่า พลังงาน และสกุลเงินดิจิทัล
เข้าร่วมกับลูกค้ามากกว่า 1,000,000 คนบนแพลตฟอร์มเทรดที่ได้รับรางวัลของเรา
1
สมัครบัญชีจริง
2
ฝากเงิน
เข้าบัญชี
3
เริ่มเทรด
ได้ทันที
เปิดบัญชี