บทความ

การวิเคราะห์แบบ Top-Down ในการเทรดฟอเร็กซ์คืออะไร?

อัปเดต 3 Sep 2025
การวิเคราะห์แบบ Top-down ในตลาดฟอเร็กซ์เป็นแนวทางที่เป็นระบบซึ่งเริ่มต้นด้วยการตรวจสอบแนวโน้มตลาดโดยรวมในกรอบเวลาที่สูงกว่าก่อนที่จะเจาะลึกไปยังกรอบเวลาที่สั้นกว่า เทรดเดอร์จะเริ่มจากการระบุทิศทางโดยรวมและระดับแนวรับแนวต้านสำคัญบนกราฟรายวันหรือรายสัปดาห์ จากนั้นจึงปรับโฟกัสโดยใช้กราฟรายชั่วโมงหนึ่งถึงสามชั่วโมง เป้าหมายคือการผสานบริบททางเศรษฐกิจมหภาคเข้ากับสัญญาณทางเทคนิคที่แม่นยำเพื่อช่วยในการตัดสินใจเข้าและออกตลาดอย่างมีข้อมูลมากขึ้น
ลิงก์ด่วนไปยังเนื้อหา
1. How Forex Trading Works with TMGM
2. How Profit is Calculated:
3. Opening the Position
4. Closing the Position
5. Why Trade Forex with TMGM?
6. Transparent Spreads
7. Major Currency Pairs
8. Explore more about Forex with TMGM

Zoomed view of candlestick chart showing bearish trend used in top down analysis forex strategy.

การวิเคราะห์แบบ Top Down ในตลาด Forex คืออะไร

การวิเคราะห์แบบ Top-down ในตลาด Forex คือวิธีการเทรดที่เริ่มต้นจากการตรวจสอบแนวโน้มตลาดในภาพรวมบนกรอบเวลาที่สูงกว่า แล้วค่อย ๆ เจาะจงลงไปยังกรอบเวลาที่ต่ำกว่าเพื่อหาจุดเข้าและออกจากการเทรดอย่างเฉพาะเจาะจง เหมือนกับการสร้างแผนที่เส้นทางโดยเริ่มจากมุมมองกว้าง ๆ ของภูมิทัศน์ แล้วซูมเข้าไปยังเส้นทางที่มีโอกาสดีที่สุด


ความเข้าใจตลาด Forex ในฐานะนักเทรด

การเทรด Forex คืออะไร และควรเริ่มต้นค้นหาวิธีที่ดีที่สุดในการเข้าร่วมตลาดอย่างไร? การเทรด Forex เป็นวิธีการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนระหว่างสกุลเงินสองสกุลที่แตกต่างกัน ตลาด Forex เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกและ ตลาด Forex เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันอาทิตย์ถึงวันศุกร์ โดยประมาณการล่าสุดระบุว่ามีการซื้อขายเงินหลายล้านล้านดอลลาร์ในแต่ละวัน


มีเหตุผลสำคัญหลายประการที่ทำให้คนต้องการเริ่มเทรด Forex ตั้งแต่ระดับสภาพคล่องที่สูงในตลาด ไปจนถึงต้นทุนที่ค่อนข้างต่ำและความยืดหยุ่นที่มีให้ในหลาย คู่สกุลเงิน และวิธีการเทรดต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่การเทรดที่คุณจะลงมือทำแล้วทำกำไรได้ทันที


อันดับแรก คุณควรทราบว่าการเทรด Forex ต้องใช้การวิเคราะห์อย่างละเอียดและต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนก่อนเริ่มเทรด หนึ่งในประเด็นแรกที่ควรทำความเข้าใจคือเรื่องของคู่สกุลเงิน ที่มีให้เลือกเทรด แม้ว่าคุณจะสามารถเทรดคู่สกุลเงินได้แทบทุกชุด แต่โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็นกลุ่มดังนี้


  • คู่สกุลเงินหลัก (Major currency pairs) ได้แก่ EUR/USD, USD/CAD, USD/JPY, AUD/USD, NZD/USD, GBP/USD และ USD/CHF ทั้งหมดนี้เป็นคู่ที่มีสภาพคล่องสูง เนื่องจากได้รับความนิยมอย่างมากจนความต้องการแทบจะสูงตลอดเวลา ดังที่เห็นได้ว่า ดอลลาร์สหรัฐอยู่ในทุกคู่เหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของสกุลเงินนี้ในโลก Forex

  • คู่สกุลเงินรอง (Minor currency pairs) จะไม่มีดอลลาร์สหรัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่จะมีสกุลเงินหลักอย่างน้อยหนึ่งสกุล เช่น EUR/AUD, GBP/JPY, NZD/JPY, GBP/AUD เป็นต้น คู่เหล่านี้มีสภาพคล่องน้อยกว่าคู่หลัก แต่ยังคงมีโอกาสเทรดสกุลเงินใหญ่ที่มีความต้องการในระดับหนึ่ง

  • คู่สกุลเงินแปลกใหม่ (Exotic pairs) มักประกอบด้วยสกุลเงินหลักหนึ่งสกุล เช่น USD หรือ EUR กับสกุลเงินที่เทรดน้อยกว่า เช่น USD/SGD, USD/HKD และ EUR/TRY คู่เหล่านี้ถือเป็นการเทรดที่มีความเสี่ยงสูงกว่า เนื่องจากมีสภาพคล่องต่ำและราคามีความผันผวนมากกว่า

กลยุทธ์พื้นฐานในการเทรด Forex

จะเริ่มต้นเทรด Forex อย่างไร? วิธีที่ดีที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นในตลาดนี้คือการศึกษากลยุทธ์ การเทรด Forex พื้นฐาน และเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับเริ่มต้น

  • การ Scalping คือการพยายามทำกำไรเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างสม่ำเสมอ โดยมักจะได้เพียงไม่กี่ pip ในหลาย ๆ การเทรดภายในวันเดียว ต้องใช้เวลามากในการศึกษาชาร์ตและตัวชี้วัด เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (moving averages) รวมถึงระดับ แนวรับและแนวต้าน (support and resistance) ด้วย

  • การเทรด Forex แบบ Day Trading คล้ายกับการ Scalping แต่มีจำนวนการเทรดน้อยกว่าในแต่ละวัน จุดสำคัญของทั้งสองกลยุทธ์นี้คือการปิดสถานะก่อนสิ้นวันเทรด สำหรับ Day Trading อาจเปิดและปิดสถานะเพียงหนึ่งครั้งต่อวันแทนที่จะหลายครั้ง ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการศึกษาชาร์ตเพื่อเข้าใจตลาดอย่างถ่องแท้ก่อนเปิดสถานะ

  • การ Swing Trading เกี่ยวกับการระบุจังหวะการแกว่งของตลาดและพยายามทำกำไรจากจังหวะเหล่านั้น ตำแหน่งเทรดอาจเปิดค้างไว้หลายวัน ซึ่งต้องใช้ความอดทนและรับความเสี่ยงจากความผันผวนในช่วงข้ามคืน คุณจะต้องใช้ ชาร์ต Forex  เช่น ชาร์ตแท่งเทียน (candlestick charts) และชาร์ตแท่ง (bar charts) เพื่อช่วยกำหนดจุดเข้าและออกอย่างชาญฉลาด

  • การเทรดแบบ Position Trading เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเทรด Forex ออนไลน์ โดยคุณจะวางแผนถือสถานะนานขึ้น ซึ่งหมายความว่าการวิเคราะห์จะเน้นการหาคุณค่าระยะยาว ไม่ต้องใช้เวลามากเท่ากลยุทธ์ระยะสั้นข้างต้น การเทรดแบบ Position จะเน้นการวิเคราะห์พื้นฐานมากกว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิค แต่คุณยังคงต้องวิเคราะห์ระดับแนวรับแนวต้าน ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ และตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่น ๆ

สัญญาณการเทรด Forex สามารถใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจเทรด แม้ว่าคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะเป็นการคาดการณ์และไม่มีการรับประกันผลกำไรหรือผลลัพธ์ สัญญาณเหล่านี้มีประโยชน์สำหรับนักเทรดที่มีเวลาหรือประสบการณ์จำกัด และยังช่วยให้นักเทรดเข้าใจการทำงานของตลาดมากขึ้น


กลยุทธ์การเทรด Forex แต่ละแบบสามารถใช้ร่วมกับตัวชี้วัดและเครื่องมือเฉพาะเพื่อช่วยให้นักเทรดเข้าใจเหตุผลเบื้องหลังการเคลื่อนไหวของตลาด เครื่องมือเหล่านี้ช่วยลดผลกระทบของความรวดเร็วของกลยุทธ์และสนับสนุนการตัดสินใจเทรดที่มีเหตุผลและเป็นระบบ


ตัวชี้วัดยอดนิยมที่ใช้กันบ่อยคือ Bollinger Bands ซึ่งใช้ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อเน้นการเคลื่อนไหวของตลาดและให้สัญญาณซื้อหรือขาย ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (Relative Strength Indicator - RSI) ก็เป็นตัวชี้วัดที่ใช้กันทั่วไปในการวัดความเร็วของการเปลี่ยนแปลงราคาสินทรัพย์เพื่อระบุแนวโน้มและระดับแรงกดดัน เพื่อกำหนดว่าสินทรัพย์นั้นถูกซื้อเกินหรือขายเกิน


การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการเคลื่อนไหวของราคา เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่ายบนชาร์ตแท่งเทียน และ Stochastic oscillator เพื่อเน้นโมเมนตัมของราคา นักเทรดยังสามารถใช้ตัวชี้วัดอย่างระดับแนวรับแนวต้าน และค่าเฉลี่ยช่วงจริง (average true ranges) เพื่อช่วยในการตัดสินใจ

ATR indicator on EURUSD chart helping assess volatility in top down analysis trading approach.

ตัวชี้วัด MACD  (Moving Average Convergence Divergence) เป็นตัวชี้วัดโมเมนตัมยอดนิยมที่ใช้บ่อยใน Swing Trading เพื่อระบุแนวโน้มขาขึ้นหรือลง รวมถึงจุดเข้าและออกที่เป็นไปได้ นักเทรดแต่ละคนจะมีตัวชี้วัดและเครื่องมือที่เหมาะสมกับกลยุทธ์ของตนเอง ซึ่งอาจขึ้นอยู่กับขั้นตอนของการเทรดและเป้าหมายทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงไป

MACD indicator on forex chart showing momentum insights used in top down analysis forex.


พลังของการวิเคราะห์แบบ Top-Down

Trader studying price movement and indicators as part of top down market analysis process.

อาจเป็นเรื่องน่าดึงดูดใจที่จะเริ่มเทรดคู่สกุลเงินเฉพาะทันทีเมื่อ เรียนรู้การเทรด Forex อย่างไรก็ตาม แม้นักเทรดที่มีประสบการณ์มากที่สุดก็ควรทำการวิเคราะห์แบบ Top-down เพื่อให้ได้บริบทที่จำเป็นและตัดสินใจเทรดอย่างมีข้อมูล ซึ่งหมายถึงการมองภาพรวมของตลาดก่อนที่จะเจาะจงไปยังการเทรดที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น


การวิเคราะห์แบบ Top-down อย่างละเอียดจะตรวจสอบข้อมูลชาร์ตระยะยาว (เช่น ชาร์ตรายวันหรือรายสัปดาห์) เพื่อระบุ แนวโน้มหลัก จากนั้นนักเทรดสามารถสร้างความเข้าใจเพิ่มเติมโดยการตรวจสอบชาร์ตระยะสั้นกว่า (เช่น ชาร์ตกรอบเวลา 1 ชั่วโมง หรือ 3 ชั่วโมง)


ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยสร้างภาพรวมของทิศทางตลาด แนวโน้ม และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวขาขึ้นและขาลง ช่วยหลีกเลี่ยงการถูกชักจูงโดยการเคลื่อนไหวของราคาระยะสั้นโดยการดูข้อมูลในวงกว้างผ่านเลนส์ทางเทคนิคที่ลึกซึ้ง


การวิเคราะห์แบบ Top-down ที่มีประสิทธิภาพจะระบุระดับแนวรับและแนวต้านเพื่อวางแผนกลยุทธ์บริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เช่น การตั้งระดับ stop-loss นอกจากนี้ยังช่วยระบุ จุดเข้าและออกที่เหมาะสม การวิเคราะห์ทางเทคนิคจะช่วยให้เข้าใจแนวโน้มขาขึ้นและขาลงทั้งเล็กและใหญ่ รวมถึงโมเมนตัมขาขึ้นและขาลง ซึ่งทั้งหมดนี้รวมกันเพื่อให้ภาพรวมที่ครบถ้วนของทิศทางตลาดโดยรวม


วิธีการทำ Top Down Analysis

จุดเริ่มต้นของการวิเคราะห์แบบ Top-down ในตลาด Forex คือการพิจารณาสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งหมายถึงการเข้าใจปัจจัยมหภาค เช่น การเติบโตทางเศรษฐกิจโลก อัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ย คุณควรเริ่มจากการดูกรอบเวลาที่ยาวนานและการตอบสนองของตลาดต่อเหตุการณ์เหล่านี้ ก่อนจะค่อย ๆ เจาะจงไปยังกรอบเวลาที่สั้นลง


เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ก็มีบทบาทในวิเคราะห์นี้เช่นกัน จากจุดเริ่มต้นในระดับโลก คุณสามารถซูมเข้าไปดูข้อมูลเศรษฐกิจเฉพาะประเทศและนโยบายของธนาคารกลางที่กำลังส่งผลกระทบต่อมูลค่าของสกุลเงินนั้น ๆ


การวิเคราะห์ทางเทคนิคบางส่วนจะเข้ามาเสริมการวิเคราะห์แบบ Top-down ขณะที่คุณค้นหาแนวโน้มตลาดและหาจุดเข้าออกที่แม่นยำ สำหรับผู้เริ่มต้นเทรด Forex วิธีนี้เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะช่วยให้ใช้เวลาศึกษาและเข้าใจตลาดอย่างถ่องแท้ก่อนทำการเทรดครั้งแรก


ตัวอย่างการวิเคราะห์แบบ Top-Down ในตลาด Forex

สมมติว่าคุณสนใจเทรดคู่สกุลเงิน GBP/USD ซึ่งเป็นหนึ่งในคู่ที่มีการซื้อขายมากที่สุดและมีข้อมูลทางการเงินล่าสุดจากสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกามากมาย ให้ดูแนวโน้มในอดีตของสกุลเงินเหล่านี้แล้วจึงโฟกัสไปที่การเปลี่ยนแปลงล่าสุด


ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อล่าสุดและนโยบายของธนาคารกลางสะท้อนอยู่ในบทวิเคราะห์ต่าง ๆ ที่คุณจะพบออนไลน์สำหรับคู่ GBP/USD ณ เวลาที่เขียนนี้ กิจกรรมการจำนองที่เพิ่มขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงในสหราชอาณาจักรถูกเน้นย้ำ ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐดูเหมือนจะชะลอตัวและไม่มีการคาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมจาก Federal Reserve


เมื่อดูรายงานข่าวล่าสุดและข้อมูลทางการเงิน คุณจะมีแนวคิดว่าตลาดนี้อาจเคลื่อนไปในทิศทางใด แต่สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไรในแง่ของการตัดสินใจซื้อขายของคุณ? ขั้นตอนต่อไปคือการดูชาร์ตและตัวชี้วัดที่เหมาะสมเพื่อเติมเต็มข้อมูลและเข้าใจว่าคุณควรทำการเทรดใด


กรณีศึกษา: การเทรด Forex อย่างมีข้อมูล

คุณได้เห็นแล้วว่าการรวมกลยุทธ์การเทรด Forex พื้นฐานหนึ่งหรือมากกว่านั้นกับการวิเคราะห์แบบ Top-down สามารถให้ความเข้าใจที่มั่นคงเกี่ยวกับตลาดและบริบทระดับโลกก่อนตัดสินใจเทรดคู่สกุลเงินที่คุณสนใจ


เราสามารถแสดงความสำคัญของการเทรด Forex อย่างมีข้อมูลได้อย่างชัดเจนผ่านกรณีศึกษาตลาดญี่ปุ่นในเดือนกรกฎาคม 2024

Japanese flag and coin stacks over stock data, illustrating global scope of top down analysis.

หลังจากช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูงโดยเงินเยนร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 38 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ญี่ปุ่นได้ดำเนินมาตรการแทรกแซงค่าเงินมูลค่า 36.8 พันล้านดอลลาร์ (5.53 ล้านล้านเยน) ในเดือนกรกฎาคม 2024 เพื่อหนุนค่าเงินเยน นี่เป็นการแทรกแซงค่าเงินครั้งแรกของประเทศตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 ซึ่งดำเนินการหลังจากช่วงเวลาหลายเดือนที่เงินเยนเผชิญแรงกดดัน เนื่องจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในเดือนมีนาคม 2024


เงินเยนฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและมีการซื้อขายที่ระดับ 150 เยนต่อดอลลาร์ในวันที่ 31 กรกฎาคม เทียบกับต้นเดือนที่ร่วงลงไปถึง 161.96 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1986 ความผันผวนนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาพรวมทางการเงิน โดย BOJ ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2008


บทสรุป

เมื่อคุณเข้าใจพื้นฐานของการเทรด Forex แล้ว คุณอาจต้องการลองเทรดด้วยตัวเองเพื่อดูว่ามันเหมาะกับบุคลิกของคุณหรือไม่ และคุณรู้สึกสบายใจกับความผันผวนหรือเปล่า ตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องนี้อาจไม่เหมาะกับทุกคน แต่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสไตล์การเทรดนี้ มันสามารถนำความพึงพอใจอย่างมากและโอกาสทำกำไรที่ดีได้


หากคุณสนใจในสิ่งที่ได้เรียนรู้จากคู่มือนี้ ขั้นตอนต่อไปคือการนำทฤษฎีไปปฏิบัติ เริ่มต้นด้วยการทำการวิเคราะห์แบบ Top-down เพื่อให้คุณเข้าใจตลาดและรู้สึกว่าคุณกำลังเทรดด้วยความรู้


หลังจากนั้น คุณสามารถเริ่มประเมินกลยุทธ์สำหรับ การเทรด Forex ออนไลน์ ที่เราได้กล่าวถึงในที่นี้ แต่ละกลยุทธ์มีข้อดีที่สำคัญที่เหมาะกับนักเทรดบางประเภท ดังนั้นคุณอาจทดลองเทรดจริงเพื่อดูว่าแบบไหนเหมาะกับคุณที่สุด


ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและความรู้ของคุณ แต่ไม่ลืมที่จะให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงอย่างรับผิดชอบ สถานการณ์ในตลาด Forex สามารถเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และแม้แต่การคาดการณ์ที่ดีที่สุดก็ไม่ได้ผลเสมอไป ดังนั้นคุณจึงต้องมีแผนการออกจากตลาด (exit strategy) การใช้เครื่องมือควบคุมความเสี่ยง เช่น คำสั่ง stop-loss จะช่วยรักษาเงินทุนของคุณให้ปลอดภัย และการเรียนรู้วิธีใช้เครื่องมือเหล่านี้ควรเป็นหนึ่งในลำดับความสำคัญถัดไปของคุณ


โปรดจำไว้ว่า: การเทรด CFDs มีความเสี่ยง แต่ด้วยกลยุทธ์ที่เหมาะสม ทัศนคติ และเครื่องมือที่ถูกต้อง การเทรดสามารถเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า มาร่วมกันปลดล็อกศักยภาพการเทรดของคุณให้เต็มที่’

เทรดอย่างชาญฉลาดวันนี้

เงินทดลอง $10,000
มากกว่า 100 ตลาด
ค่าธรรมเนียมต่ำ สเปรดแคบ
Trading App
เข้าร่วมกับลูกค้ามากกว่า 1,000,000 คนบนแพลตฟอร์มเทรดที่ได้รับรางวัลของเรา
1
สมัครบัญชีจริง
2
ฝากเงิน
เข้าบัญชี
3
เริ่มเทรด
ได้ทันที
เปิดบัญชี