บทความ

CFD Trading คืออะไรและทำงานอย่างไร

อัปเดต 2 Sep 2025
การเทรดสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (Contract for Difference - CFD) เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ซับซ้อนซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์อ้างอิงโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้น ด้วย CFDs คุณสามารถทำกำไรได้ทั้งในตลาดที่ราคาขึ้นและลง พร้อมเข้าถึงตลาดการเงินที่หลากหลายผ่านแพลตฟอร์มการเทรดเดียว CFDs เป็นผลิตภัณฑ์อนุพันธ์ที่สะท้อนผลการดำเนินงานของสินทรัพย์ในหลายประเภท ได้แก่ - หุ้นและตราสารทุน - ดัชนีหุ้น - ฟอเร็กซ์ (คู่สกุลเงิน) - สินค้าโภคภัณฑ์ (น้ำมัน ทองคำ ผลิตผลทางการเกษตร) - สกุลเงินดิจิทัล (Bitcoin, Ethereum เป็นต้น) - พันธบัตรและตราสารหนี้รัฐบาล - กองทุน ETF (Exchange-Traded Funds) เมื่อทำการเทรด CFDs คุณจะตกลงกับโบรกเกอร์ในการแลกเปลี่ยนส่วนต่างของมูลค่าสินทรัพย์ตั้งแต่เวลาที่เปิดสถานะจนถึงเวลาปิดสถานะ การจัดการนี้มอบความยืดหยุ่นอย่างมากและข้อได้เปรียบเฉพาะตัวเมื่อเทียบกับวิธีการเทรดแบบดั้งเดิม
ลิงก์ด่วนไปยังเนื้อหา
1. How Forex Trading Works with TMGM
2. How Profit is Calculated:
3. Opening the Position
4. Closing the Position
5. Why Trade Forex with TMGM?
6. Transparent Spreads
7. Major Currency Pairs
8. Explore more about Forex with TMGM

คุณสมบัติหลักของการเทรด CFD

การใช้เลเวอเรจและการเทรดด้วยมาร์จิ้น

หนึ่งในข้อได้เปรียบที่ทรงพลังที่สุดของการเทรด CFD คือการใช้เลเวอเรจ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเปิดรับตลาดได้ด้วยเงินทุนเพียงส่วนหนึ่งของเงินทุนที่ปกติจะต้องใช้:

  • การเปิดรับตลาดที่เพิ่มขึ้น: ควบคุมตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นด้วยเงินฝาก (มาร์จิ้น) ที่ค่อนข้างน้อย

  • ประสิทธิภาพของเงินทุน: ปลดปล่อยเงินทุนเพื่อกระจายการลงทุนในหลายตลาด

  • ศักยภาพที่เพิ่มขึ้น: กำไรและขาดทุนจะคำนวณจากมูลค่าตำแหน่งเต็มจำนวน

ตัวอย่างเช่น ด้วยข้อกำหนดมาร์จิ้น 5% สำหรับดัชนี S&P 500 เงินฝาก $1,000 สามารถเปิดรับตำแหน่งมูลค่า $20,000 ได้ อย่างไรก็ตาม การขยายนี้มีทั้งสองด้าน—ซึ่งเพิ่มทั้งกำไรและขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น

Seesaw diagram illustrating 50:1 leverage: $200 required margin balances $10,000 notional value

การเปิดสถานะ Long หรือ Short

CFD trading: Going Short (sell to buy) shows loss above profit below; Going Long (buy to sell) shows profit above loss belowแตกต่างจากการลงทุนแบบดั้งเดิมที่คุณจะได้กำไรจากตลาดที่ปรับตัวขึ้นเป็นหลัก CFDs มอบความยืดหยุ่นให้คุณทำกำไรได้ทั้งในสภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง:

  • สถานะ Long (ซื้อ): ทำกำไรจากตลาดที่ปรับตัวขึ้นโดยการเปิดสถานะซื้อ

  • สถานะ Short (ขาย): ทำกำไรจากตลาดที่ปรับตัวลงโดยการเปิดสถานะขาย

ความสามารถในการเทรดสองทิศทางนี้มีคุณค่าอย่างยิ่งในช่วงตลาดตกต่ำหรือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ซึ่งกลยุทธ์ซื้อและถือแบบดั้งเดิมอาจทำได้ยาก 

การเข้าถึงตลาดที่หลากหลาย

การเทรด CFD ช่วยให้เข้าถึงตลาดการเงินนับพันผ่านแพลตฟอร์มเดียว:

Table showing CFD trading margin requirements across asset classes like indices, forex, shares, commodities, and cryptocurrencies

ด้วยตลาดมากกว่า 18,000 แห่งที่พร้อมให้บริการ เทรดเดอร์สามารถกระจายพอร์ตโฟลิโอและใช้ประโยชน์จากโอกาสในหลายภาคส่วนและภูมิภาค

วิธีการทำงานของการเทรด CFD: การวิเคราะห์เชิงปฏิบัติ

ขนาดตำแหน่งและมูลค่าสัญญา

ตำแหน่ง CFD วัดเป็นสัญญาหรือล็อต โดยแต่ละตลาดจะมีมูลค่าสัญญาที่เฉพาะเจาะจง:

  • CFD หุ้น: โดยทั่วไป หนึ่งสัญญาจะเท่ากับหนึ่งหุ้น

  • CFD ดัชนี: มูลค่าสัญญามักจะแสดงเป็นจำนวนเงินสกุลเงินต่อจุดดัชนี (เช่น $10 ต่อจุด)

  • CFD ฟอเร็กซ์: ขนาดล็อตมาตรฐาน (ล็อตมาตรฐาน = 100,000 หน่วยของสกุลเงินฐาน)

การเข้าใจมูลค่าสัญญามีความสำคัญสำหรับการคำนวณกำไร ขาดทุน และขนาดตำแหน่งตามความเสี่ยงที่คุณรับได้

กลไกของกำไรและขาดทุน

การคำนวณกำไรและขาดทุนของ CFD ใช้สูตรง่ายๆ ดังนี้:

  • สำหรับสถานะ Long (ซื้อ): กำไร/ขาดทุน = (ราคาปิด - ราคาเปิด) × จำนวนสัญญา × มูลค่าสัญญา

  • สำหรับสถานะ Short (ขาย): กำไร/ขาดทุน = (ราคาเปิด - ราคาปิด) × จำนวนสัญญา × มูลค่าสัญญา

ตัวอย่าง: สถานะ Long บนดัชนี S&P 500

 Illustration of a long CFD trade on the S&P 500 index with contract details and a $2,500 profit calculation.

  • เปิดสถานะ: ซื้อ 5 สัญญาที่ 4,500 (มูลค่าสัญญา: $10 ต่อจุด)

  • ปิดสถานะ: ขายที่ 4,550

  • คำนวณ: (4,550 - 4,500) × 5 × $10 = กำไร $2,500

ตัวอย่าง: สถานะ Short บนดัชนี S&P 500

Visual breakdown of a short CFD position on the S&P 500, including entry, exit, and $2,500 profit calculation.

  • เปิดสถานะ: ขาย 5 สัญญาที่ 4,500 (มูลค่าสัญญา: $10 ต่อจุด)

  • ปิดสถานะ: ซื้อที่ 4,450

  • คำนวณ: (4,500 - 4,450) × 5 × $10 = กำไร $2,500

สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าตัวอย่างเหล่านี้ไม่รวมค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียม เช่น ค่าฟันด์ข้ามคืน สเปรด หรือค่าคอมมิชชั่น

การทำความเข้าใจสเปรด

สเปรดคือความแตกต่างระหว่างราคาซื้อ (Ask) และราคาขาย (Bid) ซึ่งเป็นองค์ประกอบต้นทุนหลักในการเทรด CFD:

  • สำหรับตลาดส่วนใหญ่ (ดัชนี ฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์) ต้นทุนการเทรดจะถูกรวมอยู่ในสเปรด

  • สำหรับ CFD หุ้น ผู้ให้บริการหลายรายจะคิดค่าคอมมิชชั่นแทนการขยายสเปรด

สเปรดที่แคบมักเป็นที่ต้องการเพราะช่วยลดการเคลื่อนไหวของตลาดที่จำเป็นในการทำจุดคุ้มทุนของการเทรด

การคำนวณมาร์จิ้นและเลเวอเรจ

ในการคำนวณมาร์จิ้นที่ต้องใช้สำหรับตำแหน่ง:

มาร์จิ้นที่ต้องใช้ = ขนาดตำแหน่ง × เปอร์เซ็นต์มาร์จิ้น

ตัวอย่างเช่น หากต้องการเปิดตำแหน่งมูลค่า $10,000 ในตลาดที่มีข้อกำหนดมาร์จิ้น 10%: 

$10,000 × 10% = ต้องใช้มาร์จิ้นเริ่มต้น $1,000

เลเวอเรจที่มีประสิทธิภาพคำนวณได้จาก: เลเวอเรจที่มีประสิทธิภาพ = ขนาดตำแหน่ง ÷ มาร์จิ้นที่ต้องใช้

ในตัวอย่างข้างต้น เลเวอเรจที่มีประสิทธิภาพจะเท่ากับ 10:1 ($10,000 ÷ $1,000)

แนวคิดขั้นสูงในการเทรด CFD

Circular chart explaining key CFD trading concepts: spreads, deal sizes, duration, and profit/loss.

การป้องกันความเสี่ยงด้วย CFDs

CFDs สามารถใช้เพื่อปกป้องการลงทุนที่มีอยู่จากความผันผวนของตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย:

  • การปกป้องพอร์ตโฟลิโอ: หากคุณถือพอร์ตหุ้นแบบดั้งเดิมมูลค่า $50,000 คุณสามารถเปิดสถานะ Short CFD ที่มีมูลค่าเท่ากันได้ หากตลาดตกต่ำ กำไรจากตำแหน่ง CFD ของคุณจะช่วยชดเชยการขาดทุนในพอร์ตหุ้น

  • การป้องกันความเสี่ยงในภาคส่วน: ป้องกันความเสี่ยงเฉพาะภาคส่วนโดยการเปิดสถานะตรงข้ามในตลาดที่เกี่ยวข้อง

  • การบริหารความเสี่ยงด้านสกุลเงิน: ป้องกันความเสี่ยงจากการเปิดรับสกุลเงินในลงทุนระหว่างประเทศ

ความสามารถในการป้องกันความเสี่ยงนี้ทำให้ CFDs เป็นเครื่องมือที่มีค่าสำหรับการบริหารความเสี่ยง โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง

สัญญาแบบ Rolling กับ Futures CFDs

ผู้ให้บริการ CFD โดยทั่วไปมีสัญญา 2 ประเภท: Cash (Rolling) CFDs และ Futures CFDs ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะที่เหมาะกับกลยุทธ์การเทรดที่แตกต่างกัน

Cash หรือ Rolling CFDs

Rolling CFDs ไม่มีวันหมดอายุที่แน่นอน ทำให้เทรดเดอร์สามารถถือสถานะได้อย่างไม่มีกำหนด อย่างไรก็ตาม จะมีค่าธรรมเนียมฟันด์ข้ามคืนที่อาจสะสมเมื่อเวลาผ่านไป เหมาะสำหรับการเทรดระยะสั้นถึงกลางที่ต้องการใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับวันหมดอายุของสัญญา

Futures CFDs

Futures CFDs มีวันหมดอายุที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หมายความว่าจะปิดสถานะโดยอัตโนมัติในเวลาที่กำหนด ต่างจาก Rolling CFDs ไม่มีค่าธรรมเนียมฟันด์ข้ามคืน เนื่องจากต้นทุนทั้งหมดถูกรวมอยู่ในสเปรดแล้ว โครงสร้างนี้ทำให้ Futures CFDs เหมาะสำหรับตำแหน่งระยะกลางถึงยาวที่ต้องการหลีกเลี่ยงต้นทุนการเงินรายวัน

การเลือกใช้ระหว่าง Rolling และ Futures CFDs ขึ้นอยู่กับกรอบเวลาการเทรดและกลยุทธ์ของคุณ เทรดเดอร์ระยะสั้นอาจชอบ Rolling CFDs เพราะความยืดหยุ่น ขณะที่ผู้ถือสถานะระยะยาวอาจได้ประโยชน์จากโครงสร้างต้นทุนของ Futures CFDs

ประเภทคำสั่งและการบริหารความเสี่ยง

การเทรด CFD ที่ประสบความสำเร็จขึ้นอยู่กับการใช้เครื่องมือการบริหารความเสี่ยงและการดำเนินคำสั่งที่มีประสิทธิภาพ:

  • คำสั่งตลาด (Market Orders): ดำเนินการทันทีที่ราคาตลาดปัจจุบัน 

  • คำสั่งจำกัดราคา (Limit Orders): กำหนดราคาที่ต้องการเข้าเทรด 

  • คำสั่งหยุด (Stop Orders): เปิดสถานะโดยอัตโนมัติเมื่อราคาตลาดถึงระดับที่กำหนด 

  • คำสั่งหยุดขาดทุน (Stop-Loss Orders): ปิดสถานะเพื่อจำกัดการขาดทุน 

  • คำสั่งทำกำไร (Take-Profit Orders): ล็อกกำไรที่ระดับราคาที่กำหนดไว้ 

  • คำสั่งหยุดรับประกัน (Guaranteed Stops): รับประกันการดำเนินการที่ระดับราคาที่แน่นอน (โดยปกติจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม) 

  • คำสั่งหยุดแบบติดตามราคา (Trailing Stops): คำสั่งหยุดขาดทุนแบบไดนามิกที่ปรับตามการเคลื่อนไหวของตลาดที่เป็นประโยชน์

กลยุทธ์บริหารความเสี่ยงที่ครอบคลุมโดยใช้เครื่องมือเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเทรดอย่างยั่งยืน

การเทรด CFD เหมาะกับคุณหรือไม่?

ข้อดีของการเทรด CFD

ความหลากหลายของตลาด: เทรดสินทรัพย์หลายประเภทผ่านแพลตฟอร์มเดียว

  • ประโยชน์ของเลเวอเรจ: ควบคุมตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นด้วยเงินทุนที่น้อยลง

  • ความสามารถในการเปิดสถานะ Short: ทำกำไรจากตลาดที่ปรับตัวลงโดยไม่ต้องยืมหุ้น

  • ไม่มีภาษีสแตมป์: ในบางเขตอำนาจศาล CFDs ยกเว้นภาษีสแตมป์ที่ใช้กับการซื้อหุ้น

  • ชั่วโมงการเทรดที่ยืดหยุ่น: เข้าถึงการเทรดนอกเวลาทำการในดัชนีหลัก

  • ศักยภาพในการป้องกันความเสี่ยง: ปกป้องการลงทุนที่มีอยู่จากตลาดที่ตกต่ำ

ความเสี่ยงและข้อควรพิจารณา

Graphic listing five leverage-related risks in CFD trading, including margin calls and counterparty risk.

  • ขาดทุนที่ขยายใหญ่ขึ้น: เลเวอเรจสามารถเพิ่มขนาดขาดทุนจนเกินเงินฝากเริ่มต้นของคุณ

  • ต้นทุนฟันด์ข้ามคืน: ตำแหน่งระยะยาวมีค่าธรรมเนียมการเงินรายวัน

  • ความผันผวนของตลาด: การเคลื่อนไหวของราคาที่รวดเร็วอาจทำให้คำสั่งหยุดขาดทุนหรือคำสั่งเรียกมาร์จิ้นถูกเปิดใช้งาน

  • ความเสี่ยงจากคู่สัญญา: ขึ้นอยู่กับความมั่นคงทางการเงินของผู้ให้บริการ CFD'

  • ความซับซ้อน: ต้องเข้าใจแนวคิดทางการเงินและตลาดหลายด้าน

การเทรด CFD เหมาะสำหรับ:

บุคคลที่มีความเข้าใจตลาดการเงินอย่างลึกซึ้งและสามารถทุ่มเทเวลาในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาและติดตามตำแหน่งของตน เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จในพื้นที่นี้มักมีแผนบริหารความเสี่ยงที่มีวินัยเพื่อบรรเทาความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทน เนื่องจาก CFDs มีเลเวอเรจ เทรดเดอร์ต้องมีทรัพยากรทางการเงินเพียงพอที่จะรับมือกับความผันผวนของตลาดโดยไม่ถูกบังคับให้ออกจากตำแหน่งก่อนเวลา

นอกจากนี้ ความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับเลเวอเรจและผลกระทบต่อกำไรและขาดทุนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ที่มีความสบายใจกับประเด็นเหล่านี้และสามารถรักษากลยุทธ์การเทรดที่มีโครงสร้างอาจพบว่าการเทรด CFD เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับการเข้าร่วมตลาด

Man celebrating in front of trading monitors showing market charts, representing success in CFD trading.

5 ขั้นตอนสู่การเป็นเทรดเดอร์ CFD ที่ประสบความสำเร็จ

1. สร้างพื้นฐานความรู้ที่แข็งแกร่ง

ก่อนทำการเทรดครั้งแรก ให้ใช้เวลาในการพัฒนาความเข้าใจที่มั่นคงเกี่ยวกับแนวคิดการเทรดหลัก ซึ่งรวมถึงการเรียนรู้กลไกและการตั้งราคาของ CFD การวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐาน หลักการบริหารความเสี่ยง และจิตวิทยาการเทรด โบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือหลายรายมีแหล่งข้อมูลการศึกษา เช่น เว็บบินาร์ บทเรียน บทความ และบัญชีทดลอง ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์ได้รับความรู้ที่จำเป็นก่อนเข้าสู่ตลาด

2. พัฒนากลยุทธ์การเทรดที่ครอบคลุม

แผนการเทรดที่มีโครงสร้างเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาวินัยและความสม่ำเสมอ แผนของคุณควรกำหนดเกณฑ์การเข้าและออกที่ชัดเจน กฎการกำหนดขนาดตำแหน่ง และพารามิเตอร์ความเสี่ยง รวมถึงขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุดต่อการเทรด วัน หรือเดือน 

นอกจากนี้ ให้กำหนดตลาดและกรอบเวลาที่จะเทรด กำหนดตารางเวลาการเทรด และรวมกระบวนการทบทวนผลการดำเนินงาน การบันทึกและปฏิบัติตามแผน—โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความท้าทายทางอารมณ์—ช่วยให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว

3. ฝึกฝนด้วยบัญชีทดลอง

การใช้บัญชีทดลองช่วยให้เทรดเดอร์ได้รับประสบการณ์จริงในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีความเสี่ยง ช่วยให้คุ้นเคยกับแพลตฟอร์มการเทรด ทดสอบกลยุทธ์และวิธีการต่างๆ และฝึกฝนการกำหนดขนาดตำแหน่งและเทคนิคบริหารความเสี่ยง 

การเทรดในบัญชีทดลองช่วยสร้างความมั่นใจและพัฒนาทักษะก่อนเปลี่ยนไปใช้บัญชีจริง

โบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่มีบัญชีทดลองพร้อมเงินเสมือนและข้อมูลตลาดเรียลไทม์

4. เริ่มต้นด้วยขนาดเล็กและเพิ่มขนาดอย่างค่อยเป็นค่อยไป

เมื่อเปลี่ยนไปเทรดจริง:

  • เริ่มต้นด้วยขนาดตำแหน่งที่น้อยที่สุด
  • ใช้เลเวอเรจในระดับอนุรักษ์นิยม
  • เน้นตลาดหนึ่งหรือสองตลาดในช่วงแรก
  • เพิ่มขนาดตำแหน่งเมื่อแสดงผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอ

วิธีนี้ช่วยให้คุณปรับตัวกับความแตกต่างทางจิตวิทยาระหว่างการเทรดทดลองและการเทรดจริง

5. ทบทวนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ความสำเร็จอย่างยั่งยืนต้องการการประเมินและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง:

  • เก็บบันทึกการเทรดอย่างละเอียด
  • วิเคราะห์ตัวชี้วัดผลการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ
  • ระบุรูปแบบของการเทรดที่ชนะและแพ้
  • ปรับกลยุทธ์ตามสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลง
  • ติดตามข่าวสารและพัฒนาการของตลาด

การทำความเข้าใจต้นทุนและค่าธรรมเนียมของ CFD

การเข้าใจต้นทุนการเทรดเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ องค์ประกอบต้นทุนหลักประกอบด้วยสเปรด ค่าคอมมิชชั่น ค่าฟันด์ข้ามคืน และค่าธรรมเนียมคำสั่งหยุดรับประกัน

สเปรด

สเปรดคือความแตกต่างระหว่างราคาซื้อ (Ask) และราคาขาย (Bid) ของสินทรัพย์ และมักเป็นต้นทุนหลักเมื่อเทรดดัชนี ฟอเร็กซ์ และ CFD สินค้าโภคภัณฑ์ สเปรดมีความผันผวนและอาจขยายตัวขึ้นตามสภาพตลาดและความผันผวน โดยจะกว้างขึ้นในช่วงเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญหรือช่วงที่สภาพคล่องต่ำ

ค่าคอมมิชชั่น

สำหรับ CFD หุ้น โบรกเกอร์มักคิดค่าคอมมิชชั่นแทนสเปรด ค่าธรรมเนียมนี้มักคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการเทรดและอาจมีค่าขั้นต่ำ เพื่อให้แน่ใจว่าการเทรดขนาดเล็กยังคงครอบคลุมต้นทุนของโบรกเกอร์

ค่าฟันด์ข้ามคืน

หากถือสถานะเกินเวลาปิดตลาดรายวัน จะมีค่าธรรมเนียมฟันด์ข้ามคืน (อัตรา Swap) ค่าธรรมเนียมนี้อิงจากอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารบวกกับมาร์กอัปของโบรกเกอร์ เทรดเดอร์ที่ถือสถานะ Long มักจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ขณะที่สถานะ Short อาจได้รับเครดิต ขึ้นอยู่กับความแตกต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสกุลเงินหรือสินทรัพย์

ค่าธรรมเนียมคำสั่งหยุดรับประกัน

คำสั่งหยุดขาดทุนรับประกัน (GSLO) ช่วยให้การเทรดปิดที่ราคาที่กำหนดไว้แน่นอน แม้จะมีช่องว่างของราคาในตลาด การป้องกันนี้มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมที่เรียกว่าพรีเมียมหยุด ซึ่งจะคืนเงินหากคำสั่งหยุดขาดทุนไม่ถูกเรียกใช้

ด้วยการเข้าใจปัจจัยต้นทุนเหล่านี้ เทรดเดอร์สามารถตัดสินใจอย่างมีข้อมูลและบริหารค่าใช้จ่ายในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Cost breakdown for a long stock position, including commissions and overnight funding for Company XYZ.


ตัวอย่างการคำนวณต้นทุน

สำหรับสถานะ Long บนหุ้น 1,000 หุ้นของบริษัท XYZ ที่ราคา $50 ต่อหุ้น โดยมีค่าคอมมิชชั่น 0.1%:

  • มูลค่าตำแหน่ง: $50,000

  • ค่าคอมมิชชั่นเปิดสถานะ: $50 (0.1% ของ $50,000)

  • ค่าคอมมิชชั่นปิดสถานะ: $50 (สมมติราคาคงที่)

  • ค่าฟันด์ข้ามคืนที่ 5% ต่อปี: ประมาณ $6.85 ต่อวัน ($50,000 × 5% ÷ 365)

ต้นทุนรวมในการถือสถานะเป็นเวลา 7 วันจะประมาณ $147.95 ($50 + $50 + $6.85 × 7)


การเทรดกับ TMGM

TMGM มีสเปรดแคบเริ่มต้นที่ 0.0 pips บนคู่สกุลเงินหลัก พร้อมค่าคอมมิชชั่นที่แข่งขันได้ เทรดเดอร์สามารถใช้เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:1000 ได้ประโยชน์จากสภาพคล่องลึกที่มาจากผู้ให้บริการชั้นนำหลายรายเพื่อการดำเนินการเทรดที่มีประสิทธิภาพ แพลตฟอร์มมีความเร็วในการดำเนินการที่รวดเร็วเฉลี่ยต่ำกว่า 30 มิลลิวินาที ช่วยลดการสลิปเพจและเพิ่มประสิทธิภาพการเทรด

TMGM รองรับ  MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ซึ่งสามารถใช้งานได้บนเดสก์ท็อป เว็บ และอุปกรณ์มือถือ รองรับความต้องการเทรดที่หลากหลาย โบรกเกอร์ยังมีแหล่งข้อมูลการศึกษา เช่น Trading Academy เว็บบินาร์สด  การวิเคราะห์ตลาดรายวัน คู่มือการเทรด และปฏิทินการเทรด แบบเรียลไทม์  เพื่อให้เทรดเดอร์ได้รับข้อมูลครบถ้วน ลูกค้ายังได้รับการสนับสนุนหลายภาษา ผู้จัดการบัญชีเฉพาะ และการดำเนินการถอนเงินที่รวดเร็ว เพื่อประสบการณ์การเทรดที่ราบรื่น

คอร์สและแหล่งข้อมูลการเทรด CFD ฟรี

การเป็นเทรดเดอร์ CFD ที่ประสบความสำเร็จต้องใช้ทักษะ ความรู้ และการฝึกฝน TMGM  มีทุกอย่างที่คุณต้องการเพื่อไปถึงเป้าหมาย พร้อมคอร์สและเว็บบินาร์การเทรดฟรีมากมาย นอกจากนี้ยังมี บัญชีทดลองฟรี  พร้อมเงินเสมือน $100,000 เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีความเสี่ยง

เรายังให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลยุทธ์การเทรด  การวิเคราะห์ตลาด และบทความข่าวสำหรับทุกระดับประสบการณ์— ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ TMGM มีสิ่งที่เหมาะกับคุณ

เทรดอย่างชาญฉลาดวันนี้

เงินทดลอง $10,000
มากกว่า 100 ตลาด
ค่าธรรมเนียมต่ำ สเปรดแคบ
Trading App
เข้าร่วมกับลูกค้ามากกว่า 1,000,000 คนบนแพลตฟอร์มเทรดที่ได้รับรางวัลของเรา
1
สมัครบัญชีจริง
2
ฝากเงิน
เข้าบัญชี
3
เริ่มเทรด
ได้ทันที
เปิดบัญชี