

ทองคำถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่นักลงทุนและเทรดเดอร์ทั่วโลกให้ความสนใจ เนื่องจากมีมูลค่าคงทนและสามารถใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนในตลาดการเงิน บทความนี้จะอธิบายพื้นฐานของ การเทรดทองคำ และตอบคำถามที่หลายคนสงสัยว่า เทรดทองคืออะไร และ เทรดทอง Forex มีวิธีทำงานอย่างไร ผ่านการซื้อขายราคาทองคำด้วยสัญญา CFD โดยไม่จำเป็นต้องถือครองทองคำจริง คุณจะได้เรียนรู้โครงสร้างตลาดทองคำ ปัจจัยที่มีผลต่อราคาทอง กลยุทธ์ยอดนิยมสำหรับ เทรดทองคำออนไลน์ และแนวทางการใช้เลเวอเรจอย่างปลอดภัย เหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและนักเทรดที่ต้องการพัฒนาทักษะการเทรดทองคำในตลาดฟอเร็กซ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การเทรดทองคำผ่านตลาด Forex หรือ เทรดทอง Forex คือการซื้อขายความเคลื่อนไหวของราคาทองคำผ่านสัญญา CFD โดยไม่ต้องถือทองคำจริง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็งกำไรระยะสั้น ป้องกันความเสี่ยง หรือต้องการเข้าถึงตลาดทองคำที่มีสภาพคล่องสูงตลอด 24 ชั่วโมง แล้วแปลงให้เทรดในคู่เงินที่นิยมมากที่สุดคือ XAU/USD
- XAU = สัญลักษณ์แทนทองคำ
- USD = ดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อเราเทรด XAU/USD หมายถึงเรา “เก็งกำไร” จากการขึ้นลงของราคาทองคำเทียบกับดอลลาร์ โดยไม่ต้องถือทองจริง
ทองคำถือเป็น สินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ที่มีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจโลกมาหลายศตวรรษ และเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในตลาดการเงิน ทั้งจากนักลงทุนสถาบัน ธนาคารกลาง และนักเทรดรายย่อย
ตลาดทองคำทั่วโลกดำเนินการผ่านหลายศูนย์กลาง เช่น:
LBMA (London Bullion Market Association): ตลาด OTC หลักที่กำหนดมาตรฐานราคาและคุณภาพของทองคำ
COMEX (สหรัฐอเมริกา): ศูนย์ซื้อขายฟิวเจอร์สทองคำใหญ่ที่สุด เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการโครงสร้างตลาดแบบมาตรฐาน
Shanghai Gold Exchange (SGE): สะท้อนอิทธิพลทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นของจีนในตลาดทองคำโลก
ตลาดทองคำมีผู้เล่นหลายประเภทซึ่งส่งผลต่ออุปสงค์และอุปทาน ดังนี้:
ธนาคารกลาง: ใช้ทองคำเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองระหว่างประเทศ
นักลงทุนสถาบัน (กองทุน, ETF): ซื้อทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยง
นักเทรดรายย่อย: เทรดทองคำเพื่อทำกำไรระยะสั้นหรือเก็บรักษามูลค่า
อุตสาหกรรมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ & เครื่องประดับ: ใช้ทองคำในการผลิตสินค้า ส่งผลต่อความต้องการระยะยาว

นักเทรดมีหลายช่องทางในการเข้าถึงทองคำแต่ละช่องทางมีลักษณะเฉพาะ 
รูปที่ 3: แสดงวิธีการซื้อขายทองคำ
ไม่ต้องถือทองจริง ใช้เลเวอเรจได้: CFDs ช่วยให้นักเทรดเก็งกำไรในราคาทองโดยไม่ต้องถือครองทองจริงโดยมักใช้เลเวอเรจ
เทรดได้ทั้งขาขึ้นและขาลง: สามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลงเพิ่มความยืดหยุ่นในสภาวะตลาดต่างๆ
ค่าธรรมเนียมต่ำ
เหมาะสำหรับนักเทรดฟอเร็กซ์ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง
เหมาะสำหรับการถือระยะยาว: การซื้อทองคำจริงให้ความเป็นเจ้าของโดยตรงนักลงทุนต้องพิจารณาการจัดเก็บการประกันภัยและความท้าทายด้านสภาพคล่อง
ลงทุนในเครื่องประดับ: แม้ว่าเครื่องประดับทองคำจะมีมูลค่าภายในแต่ราคาขายต่อมักถูกหักค่าฝีมือทำให้ไม่เหมาะสมสำหรับการลงทุนอย่างเดียว
การซื้อขายด้วยเลเวอเรจและมาร์จิ้น: สัญญาฟิวเจอร์สทองคำช่วยให้นักเทรดเก็งกำไรในราคาทองคำในอนาคตด้วยเงินทุนเพียงบางส่วนของมูลค่าสัญญาเพิ่มโอกาสกำไรและขาดทุน
สัญญามาตรฐาน: ซื้อขายบนตลาดเช่น COMEX โดยมีขนาดและวันหมดอายุที่กำหนดไว้ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่มีโครงสร้าง
เหมาะกับนักลงทุนระยะกลาง–ยาว: กองทุน ETFs ช่วยให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนจากราคาทองคำโดยไม่ต้องถือครองทองคำจริง
สภาพคล่องสูง ไม่ต้องจัดการทองจริง: ซื้อขายในตลาดหุ้นกองทุนเหล่านี้มีสภาพคล่องและสามารถรวมเข้ากับพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายได้
ให้การเปิดรับทางอ้อมต่อราคาทอง: เปิดรับราคาทองคำแต่ผลตอบแทนหุ้นขึ้นอยู่กับปัจจัยการดำเนินงานและสภาวะตลาดโดยรวม
ผันผวนสูงกว่าราคาทองคำจริง: เนื่องจากความเสี่ยงเฉพาะบริษัทและความรู้สึกของตลาดหุ้นเหมืองทองคำอาจมีความผันผวนมากกว่าราคาทองคำ
การอ่านราคาทองคำในตลาด Forex คือการดูราคาของ ทองคำ (XAU) เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ (USD)
เช่น ราคาที่เห็นในแพลตฟอร์ม MT4/MT5 หรือแอปเทรด จะเป็นประมาณ:
XAU/USD = 2350.50
แปลว่า 1 ออนซ์ทองคำมีมูลค่า 2,350.50 ดอลลาร์
เวลาคลิกคู่ทองในแพลตฟอร์ม คุณจะเห็นราคา 2 ตัว:
- Bid (ขายออก) – ราคาที่โบรกจ่ายให้ถ้าคุณ “ขาย”
- Ask (ซื้อเข้า) – ราคาที่โบรกเสนอให้ถ้าคุณ “ซื้อ”
ตัวอย่าง:
- Bid 2350.40
- Ask 2350.60
ส่วนต่างระหว่าง Bid และ Ask คือ Spread
ยิ่ง Spread แคบ ต้นทุนยิ่งต่ำ
ทองจะขยับราคาหลักๆ ในตำแหน่งทศนิยมที่สอง
ตัวอย่าง:
- จาก 2350.50 → 2350.60 = ขยับ 1 Pip
- จาก 2350.50 → 2351.50 = ขยับ 100 Pip
หมายเหตุ: ทองมีความผันผวนสูงมาก บางทีขยับทีละ 20–50 Pip ในไม่กี่วินาที
การอ่านราคาทองควรดูผ่านกราฟ เช่น TradingView/MT4:
- M1–M15 = เทรดเดย์ สัญญาณเร็ว
- H1–H4 = เทรดตามเทรนด์
- D1 = แนวโน้มใหญ่ของทอง
- Weekly/Monthly = ใช้วิเคราะห์ภาพรวมตลาดโลก
ทองมักวิ่งจริงช่วง
ตลาดลอนดอน (14:00–18:00 น.)
ตลาดนิวยอร์ก (19:30–23:00 น.)
ราคาสูงขึ้น = Uptrend
ราคาต่ำลง = Downtrend
ใช้ได้ทั้งเส้น Trendline, Zone, หรือ Fibonacci
หลุดแนวรับ = มีโอกาสลงต่อ
ทะลุแนวต้าน = มีโอกาสขึ้นต่อ
เช่น Pin Bar, Engulfing บอกแรงซื้อ–แรงขาย
การวางกลยุทธ์ที่มีข้อมูลครบถ้วนเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการซื้อขายทองคำ

รูปที่ 3: แสดงกราฟพื้นฐานของรูปแบบการซื้อขายทองคำในตลาดฟอเร็กซ์
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average): การวิเคราะห์ราคากลางในช่วงเวลาที่กำหนดช่วยระบุแนวโน้มและจุดกลับตัวที่เป็นไปได้
ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI): ตัววัดโมเมนตัมนี้ประเมินความเร็วและการเปลี่ยนแปลงของการเคลื่อนไหวราคาช่วยบ่งชี้สภาวะซื้อมากเกินหรือขายมากเกินไป
แถบโบลลิงเจอร์ (Bollinger Bands): แถบเหล่านี้แสดงความผันผวนของราคาช่วยนักเทรดในการระบุจุดที่อาจเกิดการเบรกเอาต์หรือเบรกดาวน์
ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ: การติดตามอัตราเงินเฟ้อ ตัวเลขการจ้างงาน และการเติบโตของ GDP ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสุขภาพเศรษฐกิจและการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ
ประกาศจากธนาคารกลาง: การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและนโยบายการเงินจากสถาบันเช่น Federal Reserve มีผลต่อความน่าสนใจของทองคำ
เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์: ความไม่แน่นอนทั่วโลกเช่นสงครามการค้าหรือวิกฤตการเงินสามารถกระตุ้นความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

รูปที่ 3: แสดงมือที่ถือทองคำแท่ง
นักเทรดทอง Forex ที่ประสบความสำเร็จมักปฏิบัติดังนี้:

รูปที่ 3: คุณรู้หรือไม่เกี่ยวกับการกระจายความเสี่ยงในการซื้อขาย? เครดิต: TMGM Social Media
สินทรัพย์ปลอดภัย: ทองคำช่วยปกป้องในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยและความผันผวนของตลาด
สภาพคล่องสูง: ทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงสุดทำให้ง่ายต่อการซื้อขาย
เครื่องป้องกันเงินเฟ้อ: ทองคำรักษามูลค่าได้ดีในระยะยาวเมื่อเทียบกับแรงกดดันเงินเฟ้อ
ตัวเลือกการซื้อขายที่หลากหลาย: นักเทรดสามารถซื้อขายทองคำจริง, ETFs, ฟิวเจอร์ส, CFDs และหุ้นเหมืองทองคำ
อ่านบทความ: ประโยชน์ของการเทรดทองคำแบบ CFD
ราคาผันผวนสูง: ราคาทองคำอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากความรู้สึกตลาดและปัจจัยภายนอก
ไม่มีรายได้แบบพาสซีฟ: ทองคำไม่ให้เงินปันผลหรือดอกเบี้ยต่างจากหุ้นหรือพันธบัตร
ผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ย: อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจลดความน่าสนใจของทองคำเนื่องจากสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นน่าสนใจกว่า
ราคาทองคำได้รับผลจากทั้งเศรษฐกิจโลก การเมือง และตลาดเงิน ได้แก่:
เงินเฟ้อและเงินฝืด: ทองคำมักถูกมองว่าเป็นเครื่องป้องกันเงินเฟ้อเมื่อกำลังซื้อของเงินลดลงนักลงทุนจะหันไปหาทองคำเพื่อรักษามูลค่าในทางกลับกันในช่วงเงินฝืดความต้องการทองคำอาจลดลงเนื่องจากเงินสดมีมูลค่ามากขึ้น
ตัวเลขการจ้างงานและการเติบโตของ GDP: ตัวชี้วัดเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอาจนำไปสู่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยทำให้สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าทองคำซึ่งไม่ให้ดอกเบี้ยหรือเงินปันผลน่าสนใจกว่า
การปรับอัตราดอกเบี้ย: การตัดสินใจของธนาคารกลางเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยมีผลโดยตรงต่อต้นทุนโอกาสของการถือครองทองคำอัตราดอกเบี้ยต่ำช่วยเพิ่มความต้องการทองคำ
มาตรการ QE: เมื่อธนาคารกลางเพิ่มปริมาณเงินผ่าน QE อาจทำให้สกุลเงินอ่อนค่าลงส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือทองคำ
สงครามและความขัดแย้ง: ช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์มักเห็นราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นเนื่องจากนักลงทุนแสวงหาสินทรัพย์ปลอดภัย
วิกฤตเศรษฐกิจ: ความวุ่นวายทางการเงินเช่นภาวะถดถอยหรือวิกฤตธนาคารอาจลดความเชื่อมั่นในสินทรัพย์แบบดั้งเดิมนำไปสู่การลงทุนในทองคำเพิ่มขึ้น

รูปที่ 2: การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวราคาทองคำ-ดอลลาร์สหรัฐ
ราคาทองคำมักตั้งราคาในดอลลาร์สหรัฐความสัมพันธ์ผกผันมักเกิดขึ้นระหว่างมูลค่าดอลลาร์และราคาทองคำดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้ทองคำมีราคาสูงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่นอาจลดความต้องการ
การผลิตเหมืองทองคำ: ปริมาณทองคำที่ได้จากกิจกรรมเหมืองมีผลต่ออุปทานการผลิตที่ลดลงอาจทำให้ราคาสูงขึ้นหากความต้องการยังคงที่
ความต้องการในอุตสาหกรรมและเครื่องประดับ: การใช้ทองคำในเครื่องประดับและเทคโนโลยีส่งผลต่อความต้องการการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคที่มีการบริโภคทองคำสูงสามารถผลักดันราคาขึ้น
ตามเป้าหมายการลงทุนของคุณให้กำหนดว่าคุณต้องการซื้อขายทองคำจริง ฟิวเจอร์ส ETFs CFDs หรือหุ้นเหมืองทองคำ.
เลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแล มีสเปรดแข่งขันแพลตฟอร์มใช้งานง่ายและมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด
กำหนดกลยุทธ์เข้าออกกฎบริหารความเสี่ยงและกรอบเวลาที่ชัดเจนเพื่อชี้นำการเทรด
ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานเพื่อระบุแนวโน้มการเคลื่อนไหวราคาและโอกาสการซื้อขาย
ติดตามรายงานเศรษฐกิจเหตุการณ์ภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายธนาคารกลางที่มีผลต่อราคาทองคำ
ก่อนเทรดด้วยเงินจริงใช้บัญชีทดลองเพื่อปรับกลยุทธ์และเข้าใจพลวัตตลาด
การเทรดทองคำผ่านตลาดฟอเร็กซ์ หรือ เทรดทอง Forex คือการซื้อขายการเคลื่อนไหวของราคาทองคำแบบออนไลน์ผ่านสัญญา CFD ทำให้นักเทรดสามารถเก็งกำไรได้ทั้งตอนราคาขึ้นและลงโดยไม่ต้องถือทองคำจริง ทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากรักษามูลค่าได้ดีและปรับตัวตามสภาวะเศรษฐกิจโลก
ราคาทองคำได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย เช่น อัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ ความแข็งแกร่งของดอลลาร์สหรัฐ ข้อมูลเศรษฐกิจ และเหตุการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ การเทรดทอง Forex สามารถทำได้หลายวิธี เช่น ผ่าน CFDs, Futures, ETFs หรือหุ้นเหมืองทองคำ แต่การเทรดผ่าน CFD ถือว่ายืดหยุ่นที่สุดเพราะใช้เลเวอเรจได้และเข้าถึงตลาดได้ 24 ชั่วโมง
กลยุทธ์ที่ใช้กันทั่วไป ได้แก่ การวิเคราะห์ทางเทคนิค (เช่น MA, RSI, Bollinger Bands) การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน และกลยุทธ์ติดตามเทรนด์ นักเทรดควรเน้นการบริหารความเสี่ยง เช่น ตั้ง Stop-loss เลือกขนาดสัญญาที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการใช้เลเวอเรจสูงเกินไป
การเทรดทอง Forex ให้ประโยชน์หลายด้าน เช่น ความยืดหยุ่น สภาพคล่องสูง และสามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง แต่ก็มีความผันผวนสูงและต้องติดตามข่าวเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด
ซื้อขาย Gold CFDs กับ TMGM และใช้ประโยชน์จากโอกาสตลาดด้วยสเปรดที่แข่งขันได้ เลเวอเรจสูง และการดำเนินการรวดเร็วบน MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ไม่ว่าคุณจะต้องการป้องกันความเสี่ยงกระจายพอร์ตหรือเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา TMGM มีเครื่องมือและการเข้าถึงตลาดที่จำเป็น
TMGM มอบสภาพแวดล้อมที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเทรดทองคำ:
- สเปรดต่ำสำหรับ XAU/USD
- เลเวอเรจยืดหยุ่น
- คำสั่งซื้อขายรวดเร็วด้วยเซิร์ฟเวอร์ NY4
- แพลตฟอร์ม MT4 และ MT5
- การซัพพอร์ต 24/5
- เครื่องมือวิเคราะห์ครบถ้วน
ซื้อขายแบบยาวหรือสั้นด้วยขนาดสัญญาที่ยืดหยุ่นฟีเจอร์บริหารความเสี่ยงขั้นสูงและสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ปลอดภัยและได้รับการกำกับดูแลเปิดบัญชีวันนี้และเริ่มซื้อขาย Gold CFDs ด้วยความมั่นใจ





