บทความ

การเทรดด้วยมาร์จิ้นคืออะไร? เคล็ดลับและกลยุทธ์การเทรดด้วยมาร์จิ้นชั้นนำ

อัปเดต 9 Sep 2025
การซื้อขายแบบมาร์จิ้นเป็นรูปแบบการซื้อขายที่นักลงทุนกู้ยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อเพิ่มอำนาจในการซื้อและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร โดยใช้บัญชีมาร์จิ้น ซึ่งนักลงทุนจะต้องฝากเงินบางส่วนของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดเป็นหลักประกัน และโบรกเกอร์จะให้ยืมเงินส่วนที่เหลือ แม้ว่าการซื้อขายแบบมาร์จิ้นจะช่วยเพิ่มกำไรได้มากขึ้น แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากทั้งกำไรและขาดทุนจะถูกขยายออกไปด้วยเช่นกัน
ลิงก์ด่วนไปยังเนื้อหา
1. How Forex Trading Works with TMGM
2. How Profit is Calculated:
3. Opening the Position
4. Closing the Position
5. Why Trade Forex with TMGM?
6. Transparent Spreads
7. Major Currency Pairs
8. Explore more about Forex with TMGM

การเทรดมาร์จิ้นคืออะไร? อธิบายความหมายของการเทรดมาร์จิ้น 

การเทรดมาร์จิ้นคือการยืมเงินจากโบรกเกอร์มาใช้เป็นหลักประกันเพื่อเปิดสถานะการเทรด นักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นและจับโอกาสในตลาดที่หายากได้ผ่านวิธีนี้ แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนมากเช่นกัน  

 

ซึ่งเรียกอีกอย่างว่าการใช้เลเวอเรจ (leverage) และนักเทรดใช้มันเพื่อขายหรือซื้อ หุ้นฟอเร็กซ์คริปโตเคอร์เรนซีทองคำ และสินทรัพย์ทางการเงินรูปแบบอื่นๆ การเทรดมาร์จิ้นช่วยให้คุณเทรดด้วยเงินมากกว่าที่คุณมี—ต่างจาก การเทรดสปอต (spot trading), ซึ่งต้องใช้เงินทุนเต็มจำนวนล่วงหน้า—ทำให้นักเทรดสามารถถือสถานะที่ใหญ่กว่าที่จะทำได้ตามปกติ   

 

จำนวนเงินที่นักเทรดได้รับจากโบรกเกอร์ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดมาร์จิ้นรักษาบัญชีของโบรกเกอร์ ข้อกำหนดเหล่านี้ระบุเปอร์เซ็นต์ขั้นต่ำของมูลค่ารวมของนักเทรดที่ต้องมีส่วนร่วม ข้อกำหนดเริ่มต้นคือเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการลงทุนที่จำเป็นในการเริ่มต้นเทรด ส่วนข้อกำหนดมาร์จิ้นรักษาบัญชีคือจำนวนเงินทุนขั้นต่ำที่ต้องมีเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเรียกมาร์จิ้น (margin call)  

 

หากมูลค่าหลักทรัพย์ของนักเทรดมีความผันผวน ส่วนทุนในบัญชีมาร์จิ้นก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย หากส่วนทุนลดลงต่ำกว่าข้อกำหนดมาร์จิ้นรักษาบัญชี จะเกิดการเรียกมาร์จิ้นขึ้น ในระหว่างนั้นโบรกเกอร์จะเรียกร้องให้นักลงทุนฝากหลักทรัพย์เพิ่มเติมเพื่อครอบคลุมความเสี่ยงขาดทุน หากนักเทรดไม่สามารถทำได้ โบรกเกอร์มีสิทธิ์บังคับขายสินทรัพย์ (forced liquidation)  

 

ประโยชน์ของการเทรดมาร์จิ้น

Image with the text buy, sell, illustrating margin trading mechanics—how trading on margin amplifies position size by borrowing funds

การเปิดรับตลาดที่มากขึ้นด้วยการเทรดมาร์จิ้น

ข้อดีของการเปิดรับตลาดคือ; ด้วยการลงทุนจำนวนมาก นักลงทุนสามารถเข้าร่วมในความเคลื่อนไหวที่ใหญ่ขึ้นในตลาดได้ ด้วยการลงทุนจำนวนน้อย นักลงทุนก็ยังสามารถเข้าถึงโอกาสที่หลากหลายมากขึ้นได้ ซึ่งยังช่วยเพิ่มประสบการณ์และพัฒนาทักษะการเทรดอีกด้วย  

ตัวอย่างเช่น 
การเทรดมาร์จิ้น CFD คริปโต เป็นตลาดอีกแห่งที่สร้างกำไรได้แต่ก็มีความผันผวนสูง

 

โอกาสในการขายชอร์ตด้วยมาร์จิ้น

ในตลาดขาลง การขายชอร์ตช่วยให้นักเทรดได้เปรียบ กระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับการยืมและขายคริปโตที่นักเทรดไม่ได้เป็นเจ้าของ และซื้อคืนในราคาที่ต่ำกว่า วิธีนี้ช่วยให้นักเทรดทำกำไรจากราคาที่ลดลง และยังเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงสำหรับนักเทรดที่ถือสถานะซื้อ (long position)  

 

กระจายพอร์ตโฟลิโอของคุณผ่านการเทรดมาร์จิ้น

การใช้เลเวอเรจจากเงินทุนช่วยให้นักเทรดกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์หรือหลายตลาด—นักเทรดรายวันหลายคนยังผสมผสานการเทรดมาร์จิ้นกับกลยุทธ์สวิงเทรดที่ถือครองระยะยาว เพื่อสร้างสมดุลระหว่างเลเวอเรจระยะสั้นกับแนวโน้มหลายวัน การกระจายความเสี่ยงช่วยลดความเสี่ยงและปกป้องเงินทุนในกรณีที่ราคาขยับไม่เป็นใจ    

 

ความเสี่ยงของการเทรดมาร์จิ้นคืออะไร? 

ความผันผวนและการขาดทุนที่เพิ่มขึ้นในการเทรดมาร์จิ้น

หากการเทรดไม่เป็นไปตามแผน ขาดทุนอาจเกินเงินลงทุนเริ่มต้นเนื่องจากเลเวอเรจและดอกเบี้ย ความผันผวนของตลาดยังทำให้ตลาดและราคาขยับอย่างรวดเร็ว เพิ่มความเสี่ยงขึ้น ดังนั้นนักเทรดควรมีระบบป้องกันยอดคงเหลือติดลบและเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด  

 

การเรียกมาร์จิ้น: สาเหตุและวิธีตอบสนอง

หากหลักทรัพย์ของคุณลดลงต่ำกว่าข้อกำหนดมาร์จิ้นรักษาบัญชี จะเกิดการเรียกมาร์จิ้นขึ้น  

 

หากนักเทรดไม่สามารถเพิ่มเงินทุนหรือหลักทรัพย์ได้ โบรกเกอร์จะดำเนินการบังคับขายสินทรัพย์ ซึ่งอาจทำให้ขาดทุนมากขึ้นและนักเทรดจะเสียการควบคุมตำแหน่งราคา เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเรียกมาร์จิ้น ควรตรวจสอบระดับมาร์จิ้นของคุณอย่างสม่ำเสมอ  

 

ต้นทุนดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมในการเทรดมาร์จิ้น

การเทรดมาร์จิ้นมาพร้อมกับดอกเบี้ยที่สูง ก่อนที่จะเริ่มเทรดมาร์จิ้น นักลงทุนต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเหล่านี้เมื่อคำนวณกำไรที่อาจเกิดขึ้น  

 

อัตราดอกเบี้ยอาจแตกต่างกันไปตามสภาพตลาดและนโยบายของโบรกเกอร์ ควรประเมินปัจจัยเหล่านี้อย่างรอบคอบและตัดสินใจว่าการเทรดนั้นคุ้มค่ากับความเสี่ยงและต้นทุนหรือไม่  

 

เคล็ดลับในการบริหารความเสี่ยงของการเทรดมาร์จิ้น

Image that says risk management, depicting margin call thresholds in cfd margin trading

  1. ศึกษาตลาดการเทรดมาร์จิ้นก่อนเริ่มต้น เข้าใจพื้นฐานและกลยุทธ์ของการเทรดมาร์จิ้น เช่น การวิเคราะห์พื้นฐาน, ตัวชี้วัด MACD (MACD indicator) และตัวชี้วัดตลาดอื่นๆ ก่อนตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมและน่าเชื่อถือจะช่วยให้งานเทรดง่ายขึ้น 
  1. ตั้งเป้าหมายที่เป็นจริงสำหรับการเทรดมาร์จิ้น เป้าหมายที่เป็นจริงเท่ากับระดับความเสี่ยงที่รับได้จริง ซึ่งช่วยป้องกันการขาดทุนมาก เมื่อกำหนดเป้าหมายแล้ว ให้วางแผนและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด  
  1. วิเคราะห์อย่างละเอียดก่อนเทรดมาร์จิ้น โดยใช้เทคนิคต่างๆ—เช่น ตัวชี้วัด RSI (RSI indicator)เพื่อระบุสภาวะซื้อมากเกินไปหรือลงทุนมากเกินไป—และใช้กลยุทธ์บริหารความเสี่ยงเพื่อลดการขาดทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการเทรด 
  1. ติดตามสถานะการเทรดมาร์จิ้นของคุณ อัปเดตพอร์ตโฟลิโออย่างสม่ำเสมอและปรับตามสภาพตลาดและแนวโน้ม ข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นตลอดเวลา การติดตามข่าวสารช่วยปกป้องเงินทุนของคุณโดยอ้อม  
  1. รักษาระดับมาร์จิ้นที่เหมาะสม เก็บเงินสำรองฉุกเฉินไว้เผื่อความผันผวนของตลาดที่ไม่คาดคิด ตรวจสอบระดับมาร์จิ้นและยอดเงินในบัญชีอย่างสม่ำเสมอเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเรียกมาร์จิ้นหรือการบังคับขายสินทรัพย์   
  1. ใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยงสำหรับการเทรดมาร์จิ้น คำสั่งหยุดขาดทุน (stop loss) หรือคำสั่งหยุดติดตาม (trailing stop) ช่วยจำกัดการขาดทุน 

 

เพิ่มศักยภาพการเทรดมาร์จิ้นของคุณกับ TMGM

พร้อมที่จะยกระดับการเทรดของคุณหรือยัง? TMGM มีเครื่องมือและทรัพยากรที่คุณต้องการเพื่อประสบความสำเร็จในการเทรดมาร์จิ้น: