

สัญญาซื้อขายส่วนต่าง หรือ CFD (Contract for Difference) คือรูปแบบการเทรดที่ช่วยให้นักเทรดสามารถเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ได้โดยไม่ต้องถือครองสินทรัพย์จริง ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ทองคำ ฟอเร็กซ์ ดัชนี หรือคริปโต เทรดเดอร์สามารถเปิดสถานะทำกำไรได้ทั้งในตลาดขาขึ้น (Long) และขาลง (Short) ภายในแพลตฟอร์มเดียว ด้วยโครงสร้างที่อิงส่วนต่างระหว่างราคาเปิดและราคาปิด CFD จึงมอบความยืดหยุ่นสูง ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นน้อย และเปิดโอกาสการเทรดที่หลากหลายมากกว่าวิธีลงทุนแบบดั้งเดิม บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่า CFD คืออะไร ทำงานอย่างไร และเหมาะกับใครบ้าง เพื่อเริ่มต้นเทรดอย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
หนึ่งในจุดเด่นที่สำคัญที่สุดของ CFD คือ เลเวอเรจ (Leverage) ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเปิดสถานะที่มีมูลค่ามากกว่าทุนจริงที่ใช้เป็นมาร์จิ้นได้ ทำให้เข้าถึงตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข้อดีของการใช้เลเวอเรจใน CFD:
เพิ่มโอกาสเปิดรับตลาด (Market Exposure): ควบคุมตำแหน่งใหญ่ได้ด้วยเงินทุนเพียงเล็กน้อย
ใช้เงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ: เหลือเงินสดไว้กระจายพอร์ตไปยังตลาดอื่น
เพิ่มศักยภาพในการทำกำไร: แต่ก็หมายถึงศักยภาพขาดทุนที่มากขึ้นเช่นกัน
ตัวอย่าง:
หากข้อกำหนดมาร์จิ้นของดัชนี S&P 500 คือ 5% เงินฝาก $1,000 สามารถเปิดสถานะมูลค่า $20,000 ได้
หมายเหตุ: เลเวอเรจสามารถขยายทั้งกำไรและขาดทุน จึงควรใช้ด้วยความระมัดระวัง

แตกต่างจากการลงทุนแบบดั้งเดิมที่มักทำกำไรได้เฉพาะตอนราคาขึ้น CFD เปิดโอกาสให้คุณทำกำไรในทั้งสองทิศทางของตลาด:
สถานะ Long (ซื้อ): ทำกำไรเมื่อราคาสูงขึ้น
สถานะ Short (ขาย): ทำกำไรเมื่อราคาลดลง
ความสามารถนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งในสภาวะตลาดผันผวนหรือช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว เมื่อกลยุทธ์แบบ “ซื้อแล้วถือ” อาจทำได้ยาก
การเทรด CFD ช่วยให้เข้าถึงตลาดมากกว่า 18,000 สินทรัพย์ทั่วโลก เช่น:
สินค้าโภคภัณฑ์

การมีตลาดให้เลือกจำนวนมากทำให้เทรดเดอร์สามารถกระจายความเสี่ยงและค้นหาโอกาสได้ในหลากหลายภาคส่วนและภูมิภาค
ขนาดของสัญญา CFD แตกต่างกันตามประเภทของตลาด:
CFD หุ้น: 1 สัญญา = 1 หุ้น
CFD ดัชนี: มูลค่าแสดงเป็น “ราคา/จุด” เช่น $10 ต่อจุด
CFD ฟอเร็กซ์: ใช้หน่วยมาตรฐาน เช่น 100,000 หน่วยสำหรับ 1 ล็อต
การเข้าใจมูลค่าสัญญาเป็นกุญแจสำคัญในการคำนวณกำไร/ขาดทุนและกำหนดขนาดตำแหน่งอย่างเหมาะสม
สำหรับสถานะ Long (ซื้อ):
กำไร/ขาดทุน = (ราคาปิด - ราคาเปิด) × จำนวนสัญญา × มูลค่าสัญญา
สำหรับสถานะ Short (ขาย):
กำไร/ขาดทุน = (ราคาเปิด - ราคาปิด) × จำนวนสัญญา × มูลค่าสัญญา
ซื้อ 5 สัญญาที่ราคา 4,500
มูลค่าสัญญา = $10 ต่อจุด
ปิดสถานะที่ 4,550
กำไร = (4,550 - 4,500) × 5 × $10 = $2,500
ขาย 5 สัญญาที่ 4,500
ปิดสถานะที่ 4,450
กำไร = (4,500 - 4,450) × 5 × $10 = $2,500
หมายเหตุ: ตัวอย่างไม่รวมค่าคอมมิชชั่น สเปรด และค่าฟันด์ข้ามคืน
สเปรดคือส่วนต่างระหว่างราคา Bid และ Ask ซึ่งถือเป็นต้นทุนหลักของ CFD
ดัชนี / ฟอเร็กซ์ / สินค้าโภคภัณฑ์ → รวมต้นทุนอยู่ในสเปรด
CFD หุ้น → มักมี ค่าคอมมิชชั่น แทน
สเปรดที่แคบหมายถึงต้นทุนที่ต่ำลง และช่วยให้การทำกำไรทำได้ง่ายขึ้น
สูตรมาร์จิ้นที่ต้องใช้:
มาร์จิ้น = ขนาดตำแหน่ง × เปอร์เซ็นต์มาร์จิ้น
ตัวอย่าง
ตำแหน่ง $10,000 กับมาร์จิ้น 10% → ต้องใช้มาร์จิ้น $1,000
เลเวอเรจที่มีประสิทธิภาพ:
= ขนาดตำแหน่ง ÷ มาร์จิ้น
= $10,000 ÷ $1,000 = 10:1
CFD เป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับการลดความเสี่ยงของพอร์ต:
ปกป้องพอร์ตหุ้น: เปิด Short CFD เพื่อลดความเสี่ยงจากตลาดขาลง
ป้องกันความเสี่ยงเฉพาะภาค: เปิดสถานะตรงข้ามในดัชนีที่สัมพันธ์กัน
บริหารความเสี่ยงด้านสกุลเงิน: ใช้ CFD ฟอเร็กซ์ป้องกันค่าเงินผันผวน
เหมาะสำหรับภาวะตลาดไม่แน่นอนหรือช่วงที่ความผันผวนสูง
- ถือสถานะได้ไม่จำกัด
- มีค่าฟันด์ข้ามคืน
- เหมาะกับการเทรดระยะสั้น–กลาง
- ไม่มีค่าฟันด์ข้ามคืน
- ราคารวมต้นทุนไว้ในสเปรดแล้ว
- เหมาะสำหรับถือสถานะระยะกลาง–ยาว
การเลือกขึ้นอยู่กับกรอบเวลาการเทรดและต้นทุนที่คุณยอมรับได้
เครื่องมือสำคัญที่นักเทรด CFD ควรรู้:
Market Order: เข้าที่ราคาปัจจุบัน
Limit Order: ตั้งราคาที่ต้องการเข้า
Stop Order: เปิดตำแหน่งเมื่อราคาถึงจุดกำหนด
Stop-Loss: จำกัดการขาดทุน
Take-Profit: ล็อกกำไรอัตโนมัติ
Guaranteed Stop (GSLO): หยุดขาดทุนแบบรับประกัน
Trailing Stop: ปรับตามทิศทางตลาดที่เป็นประโยชน์
การใช้คำสั่งเหล่านี้ช่วยให้เทรดอย่างมีวินัยและลดผลกระทบจากความผันผวน
เทรดสินทรัพย์หลากหลายผ่านแพลตฟอร์มเดียว
ใช้เลเวอเรจเพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไร
ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้น–ขาลง
ไม่มีภาษีสแตมป์ในหลายประเทศ
ชั่วโมงเทรดยืดหยุ่น
ป้องกันความเสี่ยงได้ดี
อ่านบทความเพิ่มเติม: ข้อดีของการซื้อขายหุ้นด้วยสัญญา CFD: คู่มือเกี่ยวกับเลเวอเรจและโอกาส

ขาดทุนอาจขยายใหญ่เมื่อใช้เลเวอเรจ
มีค่าฟันด์ข้ามคืนสำหรับการถือยาว
ตลาดผันผวนอาจทำให้ SL ถูก Trigger ง่าย
ความเสี่ยงจากผู้ให้บริการ (Counterparty Risk)
ต้องมีความเข้าใจด้านเทคนิคและหลักการเทรด
- เข้าใจความเสี่ยงของเลเวอเรจ
- พร้อมบริหารเงินทุนอย่างมีวินัย
- มีเวลาในการติดตามตลาดและปรับแผน
เรียนรู้กลไก CFD การวิเคราะห์ตลาด การบริหารความเสี่ยง และจิตวิทยาการเทรด
กำหนดจุดเข้า–ออก ขนาดตำแหน่ง กฎบริหารความเสี่ยง และตลาดที่จะเทรด
ทดสอบกลยุทธ์โดยไม่มีความเสี่ยง ฝึกการใช้งานแพลตฟอร์มก่อนลงเงินจริง
ใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวัง และเพิ่มขนาดเมื่อเริ่มมีความสม่ำเสมอ
เก็บบันทึก วิเคราะห์สถิติ และปรับกลยุทธ์ตามสภาพตลาด
สเปรดคือความแตกต่างระหว่างราคาซื้อ (Ask) และราคาขาย (Bid) ของสินทรัพย์ และมักเป็นต้นทุนหลักเมื่อเทรดดัชนี ฟอเร็กซ์ และ CFD สินค้าโภคภัณฑ์ สเปรดมีความผันผวนและอาจขยายตัวขึ้นตามสภาพตลาดและความผันผวนโดยจะกว้างขึ้นในช่วงเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญหรือช่วงที่สภาพคล่องต่ำ
สำหรับ CFD หุ้น โบรกเกอร์มักคิดค่าคอมมิชชั่นแทนสเปรด ค่าธรรมเนียมนี้มักคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการเทรดและอาจมีค่าขั้นต่ำ เพื่อให้แน่ใจว่าการเทรดขนาดเล็กยังคงครอบคลุมต้นทุนของโบรกเกอร์
หากถือสถานะเกินเวลาปิดตลาดรายวันจะมีค่าธรรมเนียมฟันด์ข้ามคืน (อัตรา Swap) ค่าธรรมเนียมนี้อิงจากอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารบวกกับมาร์กอัปของโบรกเกอร์ เทรดเดอร์ที่ถือสถานะ Long มักจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมขณะที่สถานะ Short อาจได้รับเครดิตขึ้นอยู่กับความแตกต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสกุลเงินหรือสินทรัพย์
คำสั่งหยุดขาดทุนรับประกัน (GSLO) ช่วยให้การเทรดปิดที่ราคาที่กำหนดไว้แน่นอนแม้จะมีช่องว่างของราคาในตลาดการป้องกันนี้มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมที่เรียกว่าพรีเมียมหยุดซึ่งจะคืนเงินหากคำสั่งหยุดขาดทุนไม่ถูกเรียกใช้
ด้วยการเข้าใจปัจจัยต้นทุนเหล่านี้ เทรดเดอร์สามารถตัดสินใจอย่างมีข้อมูลและบริหารค่าใช้จ่ายในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับสถานะ Long บนหุ้น 1,000 หุ้นของบริษัท XYZ ที่ราคา $50 ต่อหุ้น โดยมีค่าคอมมิชชั่น 0.1%:
มูลค่าตำแหน่ง: $50,000
ค่าคอมมิชชั่นเปิดสถานะ: $50 (0.1% ของ $50,000)
ค่าคอมมิชชั่นปิดสถานะ: $50 (สมมติราคาคงที่)
ค่าฟันด์ข้ามคืนที่ 5% ต่อปี: ประมาณ $6.85 ต่อวัน ($50,000 × 5% ÷ 365)
ต้นทุนรวมในการถือสถานะเป็นเวลา 7 วันจะประมาณ $147.95 ($50 + $50 + $6.85 × 7)
TMGM มีสเปรดแคบเริ่มต้นที่ 0.0 pips บนคู่สกุลเงินหลักพร้อมค่าคอมมิชชั่นที่แข่งขันได้ เทรดเดอร์สามารถใช้เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:1000 ได้ประโยชน์จากสภาพคล่องลึกที่มาจากผู้ให้บริการชั้นนำหลายรายเพื่อการดำเนินการเทรดที่มีประสิทธิภาพแพลตฟอร์มมีความเร็วในการดำเนินการที่รวดเร็วเฉลี่ยต่ำกว่า 30 มิลลิวินาทีช่วยลดการสลิปเพจและเพิ่มประสิทธิภาพการเทรด
TMGM รองรับ MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ซึ่งสามารถใช้งานได้บนเดสก์ท็อป เว็บ และอุปกรณ์มือถือรองรับความต้องการเทรดที่หลากหลาย โบรกเกอร์ยังมีแหล่งข้อมูลการศึกษาเช่น Trading Academy เว็บบินาร์ การวิเคราะห์ตลาดรายวัน คู่มือการเทรดและปฏิทินการเทรดแบบเรียลไทม์เพื่อให้เทรดเดอร์ได้รับข้อมูลครบถ้วน ลูกค้ายังได้รับการสนับสนุนหลายภาษาผู้จัดการบัญชีเฉพาะและการดำเนินการถอนเงินที่รวดเร็วเพื่อประสบการณ์การเทรดที่ราบรื่น
คอร์สและแหล่งข้อมูลการเทรด CFD ฟรี
การเป็นเทรดเดอร์ CFD ที่ประสบความสำเร็จต้องใช้ทักษะ ความรู้ และการฝึกฝน TMGM มีทุกอย่างที่คุณต้องการเพื่อไปถึงเป้าหมายพร้อมคอร์สและเว็บบินาร์การเทรดฟรีมากมายนอกจากนี้ยังมีบัญชีทดลองฟรีพร้อมเงินเสมือน $100,000 เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีความเสี่ยง
เรายังให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลยุทธ์การเทรดการวิเคราะห์ตลาดและบทความข่าวสำหรับทุกระดับประสบการณ์ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ TMGM มีสิ่งที่เหมาะกับคุณ





