บทความ

Forex คืออะไร? เล่นยังไงให้ได้กำไร? คู่มือสอนเทรดฉบับมือใหม่ 2026

Forex คือ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 7.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า "ฟอเร็กซ์" หรือเห็นโฆษณาชวนเชื่อให้เทรด Forex แต่ก็ยังไม่เข้าใจจริงๆ ว่ามันคืออะไร ทำงานอย่างไร และที่สำคัญ - ปลอดภัยหรือเปล่า? ลองนึกภาพง่ายๆ คุณกำลังจะเดินทางไปญี่ปุ่น คุณต้องไปแลกเงินบาทเป็นเงินเยน ณ จุดนั้น คุณกำลัง "ซื้อเงินเยน" และ "ขายเงินบาท" ในอัตราแลกเปลี่ยนที่กำหนด นี่คือหลักการพื้นฐานของ forex ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง แต่ในตลาด Forex นักเทรดทำการซื้อขายเงินตราเพื่อหากำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน

สรุปข้อมูล Forex ฉบับเข้าใจง่าย

หัวข้อรายละเอียด
Forex คืออะไรตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ (Foreign Exchange Market)
เปิดทำการ24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ (จันทร์-ศุกร์)
แบ่งเป็น 4 เซสชัน: ซิดนีย์, โตเกียว, ลอนดอน, นิวยอร์ก
มูลค่าตลาดต่อวันประมาณ 7.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อวัน
คู่เงินที่ซื้อขายมากที่สุดEUR/USD เป็นอันดับ 1 (23-25%)
ตามด้วย USD/JPY (13.5-13.8%)
เงินทุนเริ่มต้นขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ (TMGM รองรับการเริ่มต้นด้วยเงินทุนน้อย)
ถูกกฎหมายไหม

สากล: ถูกกฎหมาย

ไทย: ยังไม่มีกฎหมายรองรับโดยตรง แต่ไม่ผิดกฎหมาย นักลงทุนสามารถเทรดผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศที่มีใบอนุญาตระดับสากล

ความเสี่ยงสูงมาก - เนื่องจากมี Leverage อาจขาดทุนเกินเงินลงทุนได้ ต้องมีการบริหารความเสี่ยง

การเทรด Forex คืออะไร?

Forex ย่อมาจาก Foreign Exchange หรือ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดและมีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก ที่นี่ผู้คนทั่วโลกซื้อขายสกุลเงินต่างๆ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ (USD), ยูโร (EUR), เยนญี่ปุ่น (JPY), ปอนด์อังกฤษ (GBP) และสกุลเงินอื่นๆ รวมถึงเงินบาทไทย (THB) 


การเทรด Forex คือการ เดิมพันว่าสกุลเงินหนึ่งจะแข็งค่าหรืออ่อนค่าเมื่อเทียบกับอีกสกุลหนึ่ง ตัวอย่างเช่น หากคุณคิดว่าดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินบาท คุณจะ "ซื้อ" USD/THB และถ้าคาดการณ์ถูก คุณจะได้กำไร

ทำไมถึงเรียกว่า "Forex" หรือ "ฟอเร็กซ์"?

คำว่า Forex มาจากการผสมคำภาษาอังกฤษ Foreign Exchange ซึ่งหมายถึงการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ในภาษาไทยเราเรียกสั้นๆ ว่า "ฟอเร็กซ์" และเมื่อพูดถึง "เทรด Forex" ก็คือการซื้อขายคู่เงินต่างๆ เพื่อหาผลกำไร

เทรด Forex ผิดกฎหมายไหมในประเทศไทย?

นี่คือคำถามที่คนไทยถามมากที่สุด เพราะมีข่าวเรื่อง Forex โกง โดยเฉพาะหลังจากมีข่าวคดี Forex โกง เช่น Forex-3D และเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ต่าง ๆ ที่สร้างความเสียหายเป็นมูลค่าหลายพันล้านบาท

คำตอบชัดเจน: การเทรด Forex ไม่ผิดกฎหมาย

การซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน (Forex Trading) ไม่ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย บุคคลทั่วไปสามารถเปิดบัญชีเทรดกับโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลในต่างประเทศ และทำการเทรดได้

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังไม่มีหน่วยงานที่ออกใบอนุญาตหรือกำกับดูแลโบรกเกอร์ Forex โดยตรง ดังนั้น การเทรด Forex จึงไม่ได้อยู่ภายใต้การคุ้มครองแบบตลาดทุนไทย (เช่น ตลาดหุ้น)

แล้วทำไมถึงมี "Forex โกง"?

สิ่งที่ ผิดกฎหมายและเป็นอันตราย คือ:

  • Forex 3D: กลุ่มที่อ้างว่าเป็นโบรกเกอร์ หลอกว่าจะช่วยเทรด มีเงินปันผล แต่จริงๆ เอาเงินคนใหม่ไปจ่ายคนเก่า ไม่มีการเทรดจริง (เช่น กรณี Forex-3D)

  • โบรกเกอร์ปลอม: ไซต์ที่ไม่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลที่น่าเชื่อถือ

  • ระบบ Auto Trading หลอกลวง: สัญญาผลตอบแทนแน่นอนหรือผลกำไรสูงเกินจริง

วิธีป้องกัน Forex โกง:

  • เลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น ASIC (ออสเตรเลีย), FSA (เซเชลส์)

  • TMGM เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลโดย ASIC, FSA, FSC และ VFSC  มีความน่าเชื่อถือและโปร่งใส

  • ไม่เชื่อคำโฆษณาที่สัญญาว่า "รวยแน่นอน 100%" หรือ "ไม่มีความเสี่ยง"

  • ศึกษาและทำความเข้าใจก่อนลงทุนจริง

ทำความเข้าใจกับพื้นฐานการเทรด Forex

เมื่อเทรด Forex คุณจะเทรด คู่สกุลเงิน (Currency Pairs) ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก: Major Pairs, Minor Pairs และ Exotic Pairs

1. Major Pairs (คู่เงินหลัก) - เทรดมากที่สุด

คู่เงินหลักคือคู่ที่มีสภาพคล่องสูงที่สุด สเปรดแคบที่สุด และมี USD เป็นหนึ่งในสองสกุลเสมอ คิดเป็น 80% ของปริมาณการเทรดทั้งหมด

คู่เงินหลักที่นิยมมากที่สุด:

EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ)

  • คู่เงินที่มีปริมาณการเทรดสูงที่สุดในโลก คิดเป็นประมาณ 24% ของตลาด

  • ได้รับผลกระทบจาก Fed (สหรัฐฯ) และ ECB (ยุโรป)

USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น)

  • คู่เงินที่มีสภาพคล่องสูงอันดับ 2

  • เคลื่อนไหวอย่างราบเรียบ (ไม่ผันผวนมาก)

  • ได้รับผลกระทบจาก Fed และ BOJ

GBP/USD (ปอนด์อังกฤษ/ดอลลาร์สหรัฐ)

  • เรียกว่า "Cable" ในแวดวงเทรดเดอร์

  • มีความผันผวนสูงกว่า EUR/USD

  • ได้รับผลกระทบจาก BOE และ Fed

USD/CHF (ดอลลาร์สหรัฐ/ฟรังก์สวิส)

  • CHF เป็นสกุลเงิน "ที่ปลอดภัย" (Safe Haven)

  • ได้รับผลกระทบจาก Fed และ SNB

AUD/USD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย/ดอลลาร์สหรัฐ)

  • เรียกว่า "Aussie"

  • เคลื่อนไหวตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (ทองคำ, เหล็ก)

  • เป็นคู่เงิน "Risk-On" เมื่อเศรษฐกิจโลกดี AUD แข็งค่า

USD/CAD (ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์แคนาดา)

  • เรียกว่า "Loonie"

  • เคลื่อนไหวตามราคาน้ำมัน เพราะแคนาดาเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่

  • เมื่อน้ำมันขึ้น → CAD แข็งค่า

NZD/USD (ดอลลาร์นิวซีแลนด์/ดอลลาร์สหรัฐ)

  • เรียกว่า "Kiwi"

  • เคลื่อนไหวคล้าย AUD แต่มีสภาพคล่องน้อยกว่า

  • เคลื่อนไหวตามราคาผลิตภัณฑ์นม

2. Minor Pairs (คู่เงินรอง) - ไม่มี USD

คู่เงินรองคือคู่ที่ไม่มี USD แต่มีสกุลเงินหลักอื่นๆ เช่น EUR, GBP, JPY สเปรดกว้างกว่า Major Pairs เล็กน้อย

ตัวอย่างคู่เงินรองที่นิยม:

  • EUR/GBP (ยูโร/ปอนด์อังกฤษ)

  • EUR/JPY (ยูโร/เยนญี่ปุ่น)

  • GBP/JPY (ปอนด์อังกฤษ/เยนญี่ปุ่น) - ผันผวนสูง

  • EUR/AUD (ยูโร/ดอลลาร์ออสเตรเลีย)

  • GBP/AUD (ปอนด์อังกฤษ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย


ภาพแสดงคู่สกุลเงินหลักและรองในการเทรดฟอเร็กซ์ เช่น EUR/USD, GBP/JPY, USD/CHF และอื่น ๆ

ภาพแสดงตัวอย่างคู่สกุลเงินหลักและรอง เช่น EUR/USD, GBP/JPY, USD/CHF เป็นต้น

3. Exotic Pairs (คู่เงินแปลกใหม่) - เสี่ยงสูง

คู่เงินแปลกใหม่คือคู่ที่มีสกุลเงินของประเทศกำลังพัฒนา สเปรดกว้างมาก ผันผวนสูง ไม่แนะนำสำหรับมือใหม่

ตัวอย่างคู่เงินแปลกใหม่:

  • USD/THB (ดอลลาร์สหรัฐ/บาทไทย)

  • USD/TRY (ดอลลาร์สหรัฐ/ลีราตุรกี)

  • USD/ZAR (ดอลลาร์สหรัฐ/แรนด์แอฟริกาใต้)

  • EUR/TRY (ยูโร/ลีราตุรกี)

คู่เงินไหนเหมาะกับมือใหม่?

คำแนะนำสำหรับมือใหม่ที่เริ่มเทรด Forex:

  • เริ่มจาก EUR/USD หรือ USD/JPY เพราะสเปรดต่ำ เคลื่อนไหวไม่รุนแรงมาก

  • หลีกเลี่ยง GBP/JPY ในช่วงแรกเพราะผันผวนมาก

  • อย่าเทรด Exotic Pairs จนกว่าจะมีประสบการณ์

TMGM มี คู่เงินมากกว่า 50 คู่ ให้เลือกเทรด พร้อมสเปรดแคบพิเศษ และการดำเนินการที่รวดเร็ว

Forex ทำงานอย่างไร? อธิบายแบบเข้าใจง่าย

การเทรด Forex อาจดูซับซ้อนในตอนแรก แต่จริงๆ แล้วหลักการพื้นฐานค่อนข้างง่าย เรามาทำความเข้าใจทีละขั้นตอน

การเทรด Forex (Foreign Exchange) คือการซื้อขาย อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ซึ่งเป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลักการจริง ๆ เข้าใจได้ไม่ยาก

คู่สกุลเงิน (Currency Pairs) - หัวใจของการเทรด Forex

สิ่งที่ต้องเข้าใจก่อน: ในตลาด Forex คุณจะ ซื้อขาย “คู่สกุลเงิน (Currency Pair)” เสมอ ไม่มีการซื้อขายสกุลเงินเดียวเพียงอย่างเดียว เพราะคุณกำลัง "แลกเปลี่ยน" สกุลเงินหนึ่งกับอีกสกุลหนึ่ง

คู่สกุลเงินที่นิยม:

  • EUR/USD (ยูโรต่อดอลลาร์สหรัฐ) - คู่เงินที่มีการเทรดมากที่สุดในโลก

  • USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐต่อเยนญี่ปุ่น) - คู่เงินอันดับ 2

  • GBP/USD (ปอนด์อังกฤษต่อดอลลาร์สหรัฐ) - เรียกว่า "Cable"

  • USD/THB (ดอลลาร์สหรัฐต่อบาทไทย) - เกี่ยวข้องกับคนไทย

วิธีอ่านราคาคู่สกุลเงิน (Currency Pair)

ในตลาด Forex เราไม่ได้ซื้อขายทีละสกุล แต่เราซื้อขายเป็น "คู่" (Pair) เสมอ เพื่อให้เข้าใจง่ายที่สุด ให้จินตนาการว่า:

  • ตัวหน้า คือ "สินค้า" (เหมือนทองคำหรือน้ำมัน)

  • ตัวหลัง คือ "ป้ายราคา" (หน่วยเงินที่คุณต้องจ่าย)

ตัวอย่าง: EUR/USD = 1.0850


EUR / USD = 1.0850

1. Base Currency (สกุลเงินฐาน)

👉 คือ "สินค้า" (EUR)
มีค่าเท่ากับ 1 หน่วย เสมอ
(คิดซะว่าเรากำลังจะซื้อ "1 ยูโร")

2. Quote Currency (สกุลเงินอ้างอิง)

👉 คือ "ราคาที่ต้องจ่าย" (USD)
ตัวเลขราคา 1.0850 คือจำนวนเงินนี้
(ต้องใช้เงิน 1.0850 ดอลลาร์ เพื่อซื้อสินค้า)

📝 สรุปความหมาย: "ต้องใช้เงิน $1.0850 เพื่อแลกซื้อ 1 ยูโร"

รหัสสกุลเงิน (ISO Currency Code)

ตลาด Forex ใช้รหัสสกุลเงินมาตรฐาน 3 ตัวอักษร เช่น:

USD – ดอลลาร์สหรัฐ

EUR – ยูโร

GBP – ปอนด์สเตอร์ลิงอังกฤษ

JPY – เยนญี่ปุ่น

AUD – ดอลลาร์ออสเตรเลีย


อินโฟกราฟิกแสดงสกุลเงินหลักของโลกและรหัส ISO รวมถึง USD, EUR, GBP และ JPY ที่ใช้ในการเทรดฟอเร็กซ์และตลาดฟอเร็กซ์

อินโฟกราฟิกแสดงสกุลเงินหลักของโลกและรหัส ISO เช่น USD, EUR, GBP และ JPY ที่นิยมใช้ในการซื้อขายในตลาดค่าเงิน

ทำกำไรได้ 2 ทาง: การซื้อ (Long) และ การขาย (Short)

จุดเด่นที่สุดของ Forex ที่เหนือกว่าการซื้อหุ้นทั่วไป คือคุณสามารถ "ทำกำไรได้ไม่ว่ากราฟจะวิ่งขึ้นหรือวิ่งลง" ขอแค่คุณทายถูกทาง!

เสน่ห์ของ Forex คือคุณไม่จำเป็นต้องรอให้เศรษฐกิจดีถึงจะทำเงินได้ เพราะคุณสามารถทำกำไรได้ทั้งสองทาง ขึ้นอยู่กับการคาดการณ์ของคุณ

1. การซื้อ (Buy / Long)

ตลาดขาขึ้น ↗️

เลือกฝั่งนี้เมื่อคุณวิเคราะห์แล้วว่า "กราฟกำลังจะพุ่งขึ้น" (สกุลเงินตัวหน้า จะแข็งค่ากว่าตัวหลัง)

ตัวอย่างทำกำไร:
  • กด Buy EUR/USD ที่ราคา 1.0850
  • กราฟวิ่งขึ้นไปที่ 1.0900 (ขึ้นจริงตามคาด)
  • ผลลัพธ์: คุณได้กำไรส่วนต่าง 50 Pips ✅

2. การขาย (Sell / Short)

ตลาดขาลง ↘️

เลือกฝั่งนี้เมื่อคุณวิเคราะห์แล้วว่า "กราฟกำลังจะร่วงลง" (สกุลเงินตัวหน้า จะอ่อนค่ากว่าตัวหลัง)

ตัวอย่างทำกำไร:
  • กด Sell EUR/USD ที่ราคา 1.0850
  • กราฟดิ่งลงไปที่ 1.0800 (ลงจริงตามคาด)
  • ผลลัพธ์: คุณได้กำไรส่วนต่าง 50 Pips ✅

💡 มือใหม่มักสงสัย: "ไม่มีของแล้วจะขาย (Sell) ได้ยังไง?"

ในตลาด Forex เราซื้อขายผ่าน CFD (สัญญา) ไม่ได้ถือธนบัตรจริง ดังนั้นเราจึงสามารถส่งคำสั่ง "ขายก่อน" (Sell) เพื่อทำกำไรตอนราคาร่วงลงได้ทันที โดยไม่ต้องมีสกุลเงินนั้นในมือครับ

เจาะลึกราคา: Bid, Ask และ Spread (ต้นทุนที่คุณต้องรู้)

เคยสงสัยไหมว่าทำไมพอกดเปิดออเดอร์ปุ๊บ พอร์ตถึง "ติดลบ" ทันที? คำตอบอยู่ที่ Spread มาดูวิธีอ่านราคากัน

EUR / USD
SELL (ขาย) 1.0848
Bid Price
Spread: 2.0
(ค่าธรรมเนียม)
BUY (ซื้อ) 1.0850
Ask Price

🔴 1. Bid Price (ราคาเสนอซื้อ)

คือราคาที่คุณจะได้เมื่อกดสั่ง "ขาย" (Sell)
*เทคนิคจำ: โบรกเกอร์จะรับซื้อจากเราในราคาที่ "ถูกกว่า" เสมอ

🔵 2. Ask Price (ราคาเสนอขาย)

คือราคาที่คุณต้องจ่ายเมื่อกดสั่ง "ซื้อ" (Buy)
*เทคนิคจำ: โบรกเกอร์จะขายให้เราในราคาที่ "แพงกว่า" เสมอ

💸 3. Spread (สเปรด) คืออะไร?

คือ "ส่วนต่าง" ระหว่างราคาซื้อและราคาขาย (Ask - Bid) ซึ่งเปรียบเสมือน "ค่าบริการ" ของโบรกเกอร์นั่นเอง

สูตรคำนวณ: 1.0850 (Ask) - 1.0848 (Bid) = 0.0002 (หรือ 2 Pips)

💡 ทำไมต้องแคร์? ยิ่งสเปรดแคบ = ต้นทุนคุณยิ่งต่ำ ทำให้คืนทุนไวและทำกำไรได้ง่ายขึ้น
ที่ TMGM เราขึ้นชื่อเรื่องสเปรดที่แคบและแข่งขันได้ ช่วยให้คุณประหยัดต้นทุนในระยะยาวได้มหาศาล

Leverage (เลเวอเรจ) คืออะไร? ดาบสองคมของ Forex

Leverage คือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณ "วางเงินน้อย แต่เทรดได้เยอะ" เปรียบเสมือนการยืมพลังเงินจากโบรกเกอร์มาขยายอำนาจการซื้อของคุณ

ตัวอย่างพลังของ Leverage 1:100

(สมมติคุณมีเงินทุนจริง $100)

$100

เงินจริงของคุณ

👉 x100
$10,000

อำนาจการซื้อจริง

✅ ข้อดี: กำไรทวีคูณ

ถ้ากราฟถูกทางแค่ 1%
กำไรคิดจากยอด $10,000 = +$100
(พอร์ตโต 100% ในไม้เดียว!)

❌ ข้อเสีย: ล้างพอร์ตไว

ถ้ากราฟผิดทางแค่ 1%
ขาดทุนคิดจากยอด $10,000 = -$100
(เงินต้นหมดเกลี้ยงทันที = ล้างพอร์ต!)

คำแนะนำสำหรับมือใหม่

  • อย่าเพิ่งโลภใช้ Leverage สูงสุด (เช่น 1:500 หรือ 1:1000)
  • แนะนำให้เริ่มต้นที่ 1:10 ถึง 1:50 เพื่อความปลอดภัย
  • การใช้ Leverage น้อย ช่วยให้พอร์ตทนแรงเหวี่ยงของกราฟได้ดีกว่า ไม่โดนบังคับปิดออเดอร์ง่ายๆ

ตลาด Forex เปิด–ปิดกี่โมง? (ตารางเวลาไทย 🇹🇭)

แม้ตลาด Forex จะเปิด 24 ชั่วโมง (จันทร์-ศุกร์) แต่ไม่ได้แปลว่าเราต้องนั่งเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา! การรู้ "เวลาเปิด-ปิด" ของแต่ละประเทศ จะช่วยให้คุณวางแผนชีวิตได้ง่ายขึ้น

สามารถอ่านเพิ่มเติมในบทความ: ตลาด Forex เปิดกี่โมง? ตารางเวลาเทรดตามเวลาไทย

ชื่อตลาด (Session)เวลาไทย (โดยประมาณ)*ลักษณะกราฟ
🇦🇺 ซิดนีย์ (Sydney)04:00 - 13:00 น.ตลาดเปิดเช้าตรู่ กราฟมักจะนิ่งๆ
🇯🇵 โตเกียว (Tokyo)06:00 - 15:00 น.เริ่มมีแรงซื้อขายในโซนเอเชีย
🇬🇧 ลอนดอน (London)14:00 - 23:00 น.กราฟเริ่มวิ่งแรง เป็นเทรนด์ชัดเจน
🇺🇸 นิวยอร์ก (New York)19:00 - 04:00 น.ผันผวนสูงที่สุด! (High Volatility)

*เวลาอาจมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยตามฤดูกาล (Daylight Saving Time)

⚡ ช่วงเวลาทองคำ: 19:00 - 23:00 น.

นี่คือช่วงเวลาที่ "ตลาดลอนดอน" และ "ตลาดนิวยอร์ก" เปิดชนกัน (Overlap)

ทำไมต้องเทรดเวลานี้?
  • ปริมาณการซื้อขายสูงสุดในโลก (Volume แน่น)
  • กราฟวิ่งแรง ทำกำไรได้ไว (ไม่ต้องรอนาน)
  • สเปรด (Spread) มักจะต่ำที่สุด
  • เหมาะกับคู่เงินหลัก เช่น EUR/USD, GBP/USD, XAU/USD (ทองคำ)

ทำไมคนถึงนิยมเทรด Forex?

1. ตลาดเปิด 24 ชั่วโมง

ตลาด Forex เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ (จันทร์ - ศุกร์) เพราะครอบคลุมเขตเวลาทั่วโลก คุณสามารถเทรดได้ทุกเวลาที่สะดวก ไม่ว่าจะเป็นเช้า กลางวัน หรือกลางคืน

2. เงินทุนเริ่มต้นไม่สูง

ไม่เหมือนการลงทุนในหุ้นหรืออสังหาริมทรัพย์ที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก การเทรด Forex สามารถเริ่มต้นด้วยเงินทุนเพียงไม่กี่พันบาท (ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์)

TMGM มี บัญชี EDGE และ บัญชี CLASSIC ที่รองรับนักเทรดมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นด้วยเงินทุนน้อย

3. สภาพคล่องสูง

ด้วยมูลค่าการซื้อขายมหาศาลต่อวัน คุณสามารถเข้าและออกจากตลาดได้ง่าย ไม่ติดค้างเหมือนสินทรัพย์บางประเภท

4. ทำกำไรได้ทั้งตลาดขึ้นและตลาดลง

สิ่งที่ทำให้ Forex แตกต่างจากการลงทุนบางประเภทคือคุณสามารถทำกำไรได้ทั้งจากราคาขึ้น (Buy/Long) และราคาลง (Sell/Short) ทำให้มีความยืดหยุ่นในการออกแบบกลยุทธ์มากขึ้น ไม่ว่าตลาดจะเคลื่อนไหวในทิศทางไหน คุณก็มีโอกาสทำกำไรได้

5. ใช้เลเวอเรจเพื่อเพิ่มศักยภาพการเทรด

Forex อนุญาตให้ใช้เลเวอเรจในการเปิดสถานะที่มีมูลค่าสูงกว่าทุนจริง ช่วยขยายโอกาสในการทำกำไร ตัวอย่าง: ด้วยเลเวอเรจ 1:100 คุณสามารถควบคุมสถานะมูลค่า 100,000 ดอลลาร์ด้วยเงินเพียง 1,000 ดอลลาร์ แต่จำไว้ว่าเลเวอเรจเป็นดาบสองคม เพิ่มทั้งกำไรและความเสี่ยง

7 ความเสี่ยงที่มือใหม่ต้องระวัง (ก่อนพอร์ตแตก)

Forex ไม่ใช่แค่เรื่องของกำไร เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ นี่คือ 7 กับดักที่ทำให้เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ "ไปไม่ถึงฝั่งฝัน" และวิธีป้องกันครับ

1. Leverage: ดาบสองคม ⚔️

ขยายกำไรได้ ก็ขยายขาดทุนได้! การใช้ Leverage สูงเกินไป (เช่น 1:1000) หากกราฟผิดทางเพียง 1% เงินต้นคุณอาจหายวับไปทันที

💡 คำแนะนำ: มือใหม่ควรเริ่มที่ 1:10 หรือ 1:50 เท่านั้น

2. ตลาดผันผวนแรง (Volatility) 📉

ข่าวอย่าง Non-Farm, CPI หรือการประชุม Fed สามารถทำให้กราฟกระชากได้หลายร้อยจุดในไม่กี่วินาที หากไม่ตั้ง Stop Loss อาจเสียหายหนัก

3. เทรดแบบวัดดวง (Gambling) 🎲

Forex ไม่ใช่หวย การเข้าออเดอร์โดยไม่มีความรู้ (Technical/Fundamental) ไม่ต่างอะไรกับการพนัน ต้องมีแผนการเทรดเสมอ

4. เสพติดการเทรด (Overtrading) 😵‍💫

ตลาดเปิด 24 ชม. ไม่ได้แปลว่าต้องเทรดตลอดเวลา การเข้าออเดอร์บ่อยเกินไปเพราะ "คันมือ" หรือ "อยากเอาคืน" คือหายนะ

5. ต้นทุนแฝงช่วงข่าว (Slippage) 💸

ช่วงข่าวแรง ราคาอาจกระโดดข้าม (Gap) ทำให้ได้ราคาที่ไม่ตรงตามตั้งใจ (Slippage) และค่า Spread อาจถ่างกว้างขึ้นชั่วคราว

6. แพ้ใจตัวเอง (Psychology) 🧠

ศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดคือ "อารมณ์" ความโลภ (Greed) และความกลัว (Fear) จะทำให้คุณทำผิดแผน วินัยจึงสำคัญที่สุด

🛡️ 7. ความเสี่ยงจาก "โบรกเกอร์เถื่อน" (สำคัญมาก!)

ต่อให้เทรดเก่งแค่ไหน ถ้าเจอโบรกเกอร์โกง (กราฟค้าง, ถอนเงินไม่ได้) ก็จบกันครับ วิธีสังเกตโบรกเกอร์น้ำดีคือต้องมี "ใบอนุญาต"

✅ ทำไมเทรดเดอร์ทั่วโลกมั่นใจ TMGM?

เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเงินทุนลูกค้าสูงสุด โดยได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานระดับโลกถึง 4 แห่ง:

  • ASIC (ออสเตรเลีย) - มาตรฐานสูงสุดระดับโลก
  • VFSC (วานูอาตู)
  • FSA (เซเชลส์)
  • FSC (มอริเชียส)

🏅 พิเศษ: เราเป็นสมาชิก The Financial Commission ซึ่งมีกองทุนชดเชยความเสียหาย เพื่อความอุ่นใจสูงสุดของนักเทรด

เริ่มต้นเทรด Forex อย่างไร? (5 ขั้นตอน)

การเทรดไม่ใช่เรื่องยากถ้าเริ่มต้นถูกวิธี นี่คือเส้นทางลัดจาก "มือใหม่" สู่ "เทรดเดอร์อาชีพ" ที่เราสรุปมาให้ครับ

1

ปูพื้นฐานให้แน่น (Knowledge First)

อย่าเพิ่งรีบลงเงินจริง! เริ่มจากการเข้าใจคู่สกุลเงิน, การอ่านกราฟ (Technical), และปัจจัยข่าวเศรษฐกิจ (Fundamental) ให้ถ่องแท้ก่อน

2

ฝึกสนามจริงแบบไม่เจ็บตัว (Demo Account)

ใช้บัญชีจำลอง (Demo) เพื่อฝึกกด Buy/Sell และทดสอบกลยุทธ์โดยไม่ต้องเสี่ยงขาดทุน (เปิดบัญชี Demo ฟรีกับ TMGM ได้ที่นี่)

3

เลือกโบรกเกอร์ที่ "ไว้ใจได้" (Choose Broker)

เลือกที่มีใบอนุญาต (License) น่าเชื่อถือ, สเปรดต่ำ, กราฟไม่ค้าง และมี Support ภาษาไทย 24/7 เพื่อความอุ่นใจในการเทรด

4

สร้างเกราะป้องกันพอร์ต (Risk Management)

ตั้งกฎเหล็กให้ตัวเอง: เสี่ยงไม่เกิน 1-2% ต่อไม้, ตั้ง Stop Loss เสมอ, และไม่ใช้ Leverage สูงเกินตัวในช่วงแรก

5

ลงสนามจริง (Start Small)

เมื่อมั่นใจแล้ว ให้เริ่มด้วยเงินทุนจำนวนน้อย (ที่คุณยอมเสียได้) เพื่อฝึกควบคุมอารมณ์ในสนามจริง

พร้อมเริ่มต้นหรือยัง? 🚀

ที่ TMGM เรามีครบทุกอย่างสำหรับมือใหม่: คู่มือการเทรดปฏิทินเศรษฐกิจบทวิเคราะห์รายวัน และ 

Webinars ฟรี!

 เปิดบัญชี TMGM ฟรี (คลิก) 

ข้อควรระวังสำหรับมือใหม่ที่อยากเทรด Forex

อย่าหลงเชื่อ "รวยเร็ว"

Forex ไม่ใช่เครื่องพิมพ์เงิน การโฆษณาที่บอกว่า "เทรดวันละ 10 นาที ได้เดือนละแสน" มักเป็นกลุ่ม Ponzi หรือโบรกเกอร์ปลอม นักเทรดมืออาชีพใช้เวลาหลายปีในการพัฒนาทักษะ

อย่าเทรดด้วยเงินที่เสียแล้วจะลำบาก

ใช้เฉพาะเงินที่ "พร้อมเสีย" ไม่ควรใช้เงินค่าเทอม ค่าบ้าน หรือเงินกู้ มาเทรด

อย่าใช้ Leverage สูงเกินไป

Leverage 1:500 หรือ 1:1000 อาจฟังดูน่าสนใจ แต่มันเพิ่มความเสี่ยงอย่างมหาศาล มือใหม่ควรเริ่มต้นจาก 1:10 หรือ 1:50 ก่อน

เรียนรู้จากความผิดพลาด

ทุกคนขาดทุนบ้าง สิ่งสำคัญคือต้องเรียนรู้จากความผิดพลาด บันทึก Trading Journal เพื่อทบทวนว่าทำอะไรผิดและปรับปรุง

5 ปัจจัยขับเคลื่อนตลาด Forex (สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเทรด)

กราฟไม่ได้ขยับด้วยความบังเอิญ! แต่มันขับเคลื่อนด้วย "ข่าวและกระแสเงินทุน" การเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะเปลี่ยนคุณจาก "นักเดา" ให้กลายเป็น "นักวิเคราะห์" ครับ

สำคัญที่สุด 1. นโยบายธนาคารกลาง (Big Boss)

ธนาคารกลางคือผู้กำหนดทิศทางเงินของโลก เครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดของเขาคือ "อัตราดอกเบี้ย"

↗️ ขึ้นดอกเบี้ย (Rate Hike)

ดึงดูดเงินทุนต่างชาติ → ความต้องการสกุลเงินสูงขึ้น → สกุลเงินแข็งค่า

↘️ ลดดอกเบี้ย (Rate Cut)

ผลตอบแทนลดลง → เงินทุนไหลออก → สกุลเงินอ่อนค่า

ธนาคารกลางชื่อย่อคุมสกุลเงิน
🇺🇸 สหรัฐอเมริกาFed (เฟด)USD
🇪🇺 ยูโรโซนECBEUR
🇬🇧 อังกฤษBOEGBP
🇯🇵 ญี่ปุ่นBOJJPY

2. ตัวเลขเศรษฐกิจ (สมุดพกคะแนน) 📊

ตัวเลขเหล่านี้บอก "สุขภาพ" ของประเทศ ยิ่งตัวเลขดี ค่าเงินยิ่งแข็ง

  • 🔥 NFP (Non-Farm Payroll): ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ (ออกทุกศุกร์แรกของเดือน) *ผันผวนแรงที่สุด
  • CPI (เงินเฟ้อ): วัดราคาสินค้า ถ้าเงินเฟ้อสูง ธนาคารกลางอาจต้องขึ้นดอกเบี้ย
  • GDP (ผลิตภัณฑ์มวลรวม): ภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจทั้งประเทศ

3. อารมณ์ตลาด (Risk-On / Risk-Off)

ตลาดขับเคลื่อนด้วย "ความโลภ" และ "ความกลัว" ของนักลงทุน

😎 Risk-On (กล้าเสี่ยง)

เมื่อโลกสงบ เศรษฐกิจดี นักลงทุนจะเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย ไปซื้อตัวที่ผลตอบแทนสูง

👉 สกุลเงินน่าเล่น: AUD, NZD, CAD, GBP

😨 Risk-Off (กลัวเสี่ยง)

เมื่อเกิดสงคราม หรือวิกฤตเศรษฐกิจ นักลงทุนจะหนีไปถือสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven)

👉 สกุลเงินน่าเล่น: JPY, CHF, USD

4. การเมืองและสงคราม (Geopolitics) 💣

ความไม่แน่นอนคือศัตรูของค่าเงิน เมื่อเกิดสงครามหรือวิกฤตการเมือง ค่าเงินของประเทศคู่ขัดแย้งมักจะอ่อนค่าลง

ตัวอย่างชัดเจน: ช่วง Brexit (อังกฤษออกจาก EU) ค่าเงินปอนด์ (GBP) ร่วงลงอย่างรุนแรงเพราะความไม่แน่นอนในอนาคต

5. ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Correlations)

สกุลเงินบางประเทศผูกติดกับราคา "ของที่เขาขาย"

🛢️ น้ำมัน
🇨🇦 CAD
แคนาดาขายน้ำมัน
🥇 ทองคำ
🇦🇺 AUD
ออสเตรเลียขุดทอง
🥛 นมเนย
🇳🇿 NZD
นิวซีแลนด์ขายสินค้าเกษตร

สรุป: Forex คือโอกาส แต่ต้องเรียนรู้และระวังตัว

Forex ไม่ใช่ "ทางลัดสู่ความรวย" ชั่วข้ามคืน แต่คือ "ทักษะวิชาชีพ" ที่สามารถสร้างรายได้ให้คุณตลอดชีวิตหากเริ่มต้นถูกวิธี เช็คความพร้อมของคุณตาม 4 ข้อนี้:

  • มี Mindset ที่ถูกต้อง: เข้าใจว่านี่คือการ "ลงทุน" ไม่ใช่การ "พนัน" หรือวัดดวง
  • มีแผนการเทรด (System): รู้ชัดเจนว่าเข้าออเดอร์เพราะอะไร และจะออกเมื่อไหร่ (ไม่เทรดมั่ว)
  • มีวินัยการเงิน (Money Management): ยอมตัดขาดทุน (Stop Loss) เป็น และไม่เสี่ยงเกินตัว
  • มีพาร์ทเนอร์ที่ดี (Trusted Broker): เลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจริง กราฟเสถียร และไม่โกงเงินคุณ

ถ้าคุณพร้อมที่จะเรียนรู้และเติบโต... ให้ TMGM เป็นจุดเริ่มต้นของคุณ

 เปิดบัญชีเทรดจริง (คลิก) 

หรือ ลองเทรดด้วยบัญชี Demo ฟรี (ไม่ต้องฝากเงิน)

TMGM Security: เราได้รับใบอนุญาตจาก ASIC, VFSC, FSA และ FSC และมีการแยกบัญชีเงินฝากลูกค้า (Segregated Account) เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

เทรดอย่างชาญฉลาดวันนี้

เงินทดลอง $10,000
มากกว่า 100 ตลาด
ค่าธรรมเนียมต่ำ สเปรดแคบ
Trading App

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Forex

Forex หรือ FX หมายถึงอะไร?

+

Forex แตกต่างจากการเทรดสกุลเงินหรือไม่?

+

จะทำกำไรจากการเทรด Forex ได้อย่างไร?

+

จะเริ่มต้นเทรด Forex ได้อย่างไร?

+

ค่าธรรมเนียมและต้นทุนในการเทรด Forex มีอะไรบ้าง?

+
TMGM
Trade The World
TMGM เป็นผู้ให้บริการทางการเงินระดับโลกที่ดำเนินงานภายใต้มาตรฐานการกำกับดูแลที่เข้มงวด มุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์การซื้อขายที่ราบรื่น ผ่านแพลตฟอร์มเว็บและมือถือที่ใช้งานง่ายของ TMGM นักเทรดสามารถเข้าถึงตลาดระหว่างประเทศและมีส่วนร่วมกับเครื่องมือที่หลากหลาย รวมถึงฟอเร็กซ์ ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ โลหะมีค่า พลังงาน และสกุลเงินดิจิทัล
เข้าร่วมกับลูกค้ามากกว่า 1,000,000 คนบนแพลตฟอร์มเทรดที่ได้รับรางวัลของเรา
1
สมัครบัญชีจริง
2
ฝากเงิน
เข้าบัญชี
3
เริ่มเทรด
ได้ทันที
เปิดบัญชี