

กราฟเทรด คือเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ราคา ที่เทรดเดอร์ใช้เพื่อทำความเข้าใจทิศทาง แนวโน้ม และจุดกลับตัวของตลาดฟอเร็กซ์ การเรียนรู้วิธีอ่าน กราฟ Forex ช่วยให้ผู้เริ่มต้นตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้นและวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำ คู่มือนี้อธิบายประเภทของกราฟที่ใช้บ่อยที่สุด ได้แก่ กราฟเส้น (Line Chart), กราฟแท่ง (Bar Chart) และกราฟแท่งเทียน (Candlestick) ซึ่งเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมสูงสุด พร้อมอธิบายวิธีตีความข้อมูลและการใช้งานในสภาพตลาดปัจจุบัน
กราฟ Forex คือเครื่องมือแสดงภาพที่ใช้ติดตามการเคลื่อนไหวของราคาคู่สกุลเงินตามช่วงเวลา กราฟจะนำเสนอข้อมูลสำคัญ เช่น ราคาปิด ราคาเปิด ราคาสูงสุด และราคาต่ำสุด (OHLC) ในแต่ละช่วงเวลา ทำให้เทรดเดอร์สามารถมองเห็นแนวโน้ม จุดกลับตัว และพฤติกรรมราคาของตลาดได้ชัดเจนขึ้น
กราฟฟอเร็กซ์มีหลายรูปแบบ เช่น กราฟเส้น กราฟแท่ง และกราฟแท่งเทียน (แท่งเทียน Forex) ซึ่งแต่ละประเภทมีความเหมาะสมกับสไตล์การวิเคราะห์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะใช้เพื่อวิเคราะห์แนวรับ–แนวต้าน อ่านพฤติกรรมราคา หรือค้นหาโอกาสในการเข้าออกตลาด กราฟคือเครื่องมือพื้นฐานที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องเข้าใจ
การอ่าน กราฟเทรดฟอเร็กซ์ ช่วยให้เทรดเดอร์ระบุแนวโน้มตลาด หาโมเมนตัม และเลือกจังหวะเปิด–ปิดออเดอร์ได้อย่างแม่นยำ การเรียนรู้เริ่มจากองค์ประกอบหลัก 3 ส่วนคือ:
ชื่อคู่สกุลเงิน เช่น EUR/USD จะแสดงสกุลเงินฐาน (Base Currency) ไว้ด้านหน้า และสกุลเงินอ้างอิง (Quote Currency) ไว้ด้านหลัง บอกว่าต้องใช้เงินกี่หน่วยของสกุลเงินอ้างอิงเพื่อซื้อสกุลเงินฐาน 1 หน่วย
เป็นแกนตั้งที่แสดงราคาของคู่สกุลเงิน การเคลื่อนไหวขึ้นลงของราคาในแกนนี้ช่วยให้เทรดเดอร์ติดตามโมเมนตัมและระดับสำคัญของตลาดได้
กรอบเวลามีตั้งแต่ 1 นาทีจนถึง 1 เดือน ช่วยให้วิเคราะห์ตลาดได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เช่นเทรดเดย์ (Day Trading), สวิง (Swing), หรือวิเคราะห์ภาพรวมใหญ่ (Position Trading)
กราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมที่สุดในการเทรดฟอเร็กซ์ เนื่องจากให้ข้อมูลเชิงลึกทั้งด้านราคาและด้านจิตวิทยาตลาด
คุณสมบัติหลักของแท่งเทียน Forex
- สีเขียว = ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด
- สีแดง = ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด
- ไส้เทียน (Wick) แสดงราคาสูงสุด–ต่ำสุด
- ลำตัว (Body) แสดงช่วงราคาระหว่างเปิด–ปิด
การจดจำรูปแบบแท่งเทียนที่สำคัญ:
- Doji – ตลาดลังเล
- Hammer – สัญญาณกลับตัวขาขึ้น
- Engulfing – สัญญาณกลับตัวแรง
รูปแบบแท่งเทียน Forex เหล่านี้เป็นส่วนสำคัญของการวิเคราะห์พฤติกรรมราคา (Price Action) และใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์ เช่น RSI หรือ Moving Average เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเทรด

กราฟเส้นเชื่อมราคาปิดของแต่ละช่วงเวลาให้เป็นเส้นต่อเนื่องเน้นภาพรวมของแนวโน้มตลาดและลดสัญญาณรบกวนจากความผันผวนระหว่างวันเหมาะสำหรับการมองโครงสร้างเทรนด์ใหญ่และการเทรดแบบสวิงหรือถือครองระยะยาว
แม้กราฟเส้นจะไม่ค่อยถูกใช้โดยนักเทรดขั้นสูงสำหรับการวิเคราะห์เชิงลึก แต่ก็ได้รับความนิยมใหม่ใน การเทรดสวิง (swing trading) และการเทรดแบบถือครองตำแหน่ง (position trading) ซึ่งนักเทรดจะเน้นทิศทางตลาดโดยรวมมากกว่าการเคลื่อนไหวราคาระยะสั้น นักลงทุนระยะยาวหลายรายใช้กราฟเส้นร่วมกับกราฟประเภทอื่นเพื่อระบุแนวโน้มตลาดโดยรวม
กราฟแท่งให้ข้อมูลครบทั้ง Open – High – Low – Close ทำให้เทรดเดอร์สามารถประเมินความผันผวน จุดกลับตัว และโมเมนตัมได้ชัดเจน เหมาะสำหรับการวิเคราะห์เชิงลึก, Backtesting และการเทรดด้วยอัลกอริทึม
กราฟแท่งเทียนเป็นการผสมผสานความละเอียดของกราฟแท่งและความอ่านง่ายของกราฟเส้น ทำให้เป็นเครื่องมือหลักของเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ทั่วโลก
จุดเด่นของกราฟแท่งเทียน:
- อ่านง่าย
- เห็นโครงสร้างราคาและจิตวิทยาตลาด
- เหมาะกับผู้เริ่มต้นและผู้มีประสบการณ์
- ใช้ได้ทั้ง Day Trading, Swing Trading และ Position Trading
การผสมผสานกราฟแท่งเทียนกับตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (Relative Strength Index - RSI) หรือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการ เทรดฟอเร็กซ์แบบรายวัน (forex day trading) และ การเทรดสวิง (swing trading)
เทรดเดอร์ที่ต้องการลดสัญญาณรบกวนในตลาดมักเลือกใช้กราฟขั้นสูง เช่น:

แสดงเฉพาะการเคลื่อนไหวของราคา ไม่สนใจเวลา ช่วยลดความผันผวนเล็ก ๆ เหลือเฉพาะทิศทางสำคัญของราคา

กราฟแท่งเทียนปรับสูตรใหม่เพื่อให้แนวโน้มดูเรียบขึ้น ช่วยให้เทรดเดอร์จับเทรนด์ได้ง่ายขึ้น

ใช้ “X” และ “O” แสดงการขึ้นลงของราคา ช่วยระบุแนวรับ–แนวต้านได้ชัดเจนมาก เหมาะสำหรับภาพรวมระยะยาว
แม้ว่ากราฟขั้นสูงเหล่านี้จะไม่เป็นที่นิยมเท่ากราฟแท่งเทียนหรือแท่งแต่ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเนื่องจากช่วยลดความซับซ้อนของการเคลื่อนไหวของราคาและลดเสียงรบกวนในตลาด
การเลือกกราฟที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรด ระดับรายละเอียดที่ต้องการ และกรอบเวลาที่วิเคราะห์ นี่คือคำแนะนำสั้นๆ:
สำหรับผู้ที่ต้องการวิเคราะห์เชิงลึกมากขึ้น การผสมผสานกราฟอย่าง Renko, Heikin-Ashi, Point-and-Figure สามารถช่วยลดสัญญาณรบกวนและมอบความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับแนวโน้มตลาด





